ไข้เลือดออก เป็นโรคที่เเพร่ระบาดในฤดูฝนของทุกๆปี เนื่องจากการเพิ่มจำนวนของยุงลายซึ่งเป็นพาหะของโรค ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และสามารถพบได้ทั้งในเด็กเเละผู้ใหญ่ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เสียชีวิตได้
โรคไข้เลือดออกเกิดจากอะไร?
ไข้เลือดออกเป็นโรคระบาดชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue virus) โดยมีพาหะเป็นยุงลาย ซึ่งผู้ที่ถูกยุงลายที่มีเชื้อกัดอาจมีอาการได้ โดยไวรัสเดงกี่มี 4 สายพันธุ์ ซึ่งทุกสายพันธุ์สามารถทำให้เกิดไข้เลือดออกได้
อาการไข้เลือดออก
- มีไข้สูง 38 องศา เกิน 2 วัน
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว
- อ่อนเพลีย ซึมลง
- อุจจาระมีสีดำ เเละปัสสาวะสีเข้ม
- เบื่ออาหาร อาเจียน
- มีจุดเลือดเล็กบริเวณผิวหนังเช่น แขน ขา ลำตัว รักแร้
- ซึ่งบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบาลง ความดันต่ำ เลือดออกง่าย อาเจียนเป็นเลือด
แนวทางการรักษาไข้เลือดออก
การรักษาโรคไข้เลือดออกไม่มียารักษา แต่เป็นการรักษาตามอาการและความรุนแรง หากสังเกตได้เร็ว จะได้ช่วยให้หายได้ในเวลาไม่นาน และป้องกันอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
- เช็ดตัวเพื่อลดไข้ โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติบิดหมาด ๆ เช็ดที่ใบหน้า ซอกคอ รักแร้ ข้อพับ ขาหนีบ
- รับประทานยาลดไข้ ต้องเป็นยาพาราเซตามอลในกรณีที่มีไข้สูงเท่านั้น
- ดื่มน้ำให้มาก เพราะการมีไข้สูงหรืออาเจียน ทำให้ร่างกายขาดน้ำ
- พบแพทย์ทันที ถ้ามีอาการรุนแรง
การป้องกันไข้เลือดออก
- ไม่เล่นในมุมมืด หรือห้องควรมีแสงสว่างทั่วถึง
- ฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
- ใส่เสื้อผ้าที่ครอบคลุมแขนและขา
- ใช้ยากันยุงหรือสารกันยุงที่มีประสิทธิภาพ
- กำจัดที่อยู่อาศัยของยุงลาย
- สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมสำหรับการเจริญพันธุ์ของยุงลาย
ไข้เลือดออก สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน หรือหยุดการแพร่กระจายของเชื้อได้ การฉีดวัคซีนสามารถช่วยได้เพราะหากเราเป็นไข้เลือดออก อาการจะรุนแรงน้อยกว่าคนที่ไม่ได้รับวัคซีน
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
คลินิกอายุรกรรม อาคาร 5 ชั้น 1
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร. 02-514-4141 ต่อ 5188 - 5189