โรคมะเร็ง หากพูดถึงหลายๆคนอาจกังวล เพราะเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และเป็นสาเหตุสำคัญที่คร่าชีวิตคนไทยในอัตราที่เพิ่มสูงมากขึ้นทุกปี ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวก็อาจรุนแรง หรือลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นแล้ว แต่หากมีการป้องกัน หรือตวจสุขภาพเป็นประจำ ก็จะสามารถตรวจพบโรคได้ในระยะเริ่มต้นและสามารถรักษาได้อย่างถูกวิธีให้หายขาดได้
สาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็ง
โรคมะเร็ง (Cancer) เกิดขึ้นจากการกลายพันธุ์ของยีน หรือสารพันธุกรรมที่อยู่ในเซลล์ ทำให้เซลล์มีลักษณะผิดปกติแตกต่างจากเซลล์ทั่วไป ทำให้ร่างกายควบคุมไม่ได้ทั้งยังสามารถมีชีวิตอยู่นานกว่าเซลล์ปกติทั่วไป โดยเซลล์เหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ และอีกสาเหตุที่สำคัญก็คือเกิดจากพฤติกรรมการปฏิบัติตัวที่ไปกระตุ้นสารก่อมะเร็งในร่างกาย ที่ทำให้เซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งร่วมด้วย
การตรวจมะเร็ง...มีประโยชน์อย่างไร
การตรวจมะเร็ง ก็เหมือนการตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไป เพียงแต่เจาะลึกที่ไปที่เชื้อมะเร็งโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถตรวจได้ตั้งแต่ไม่มีอาการหรือสัญญาณเตือนใดๆ ยิ่งในคนที่ตรวจเป็นประจำก็จะทำให้ตรวจเจอได้เร็ว หากมีอาการหรือมีเชื้อมะเร็งขึ้นมา ก็ยังช่วยในการติดตามผลของเซลล์มะเร็ง ว่ามีการตอบสนองที่ดีต่อการรักษาแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าการตรวจมะเร็งเป็นประจำย่อมดีกว่า และการตรวจนี้ยังช่วยป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของผู้ป่วยที่เคยเป็นมะเร็งเช่นกัน
ตรวจมะเร็งเต้านม
สามารถตรวจได้ด้วยการทำแมมโมแกรม (Mammogram) ซึ่งตรวจได้ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป และกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม ได้แก่ มีประจำเดือนตั้งแต่อายุน้อย ไม่มีบุตร เคยได้รับการฉายรังสีที่เต้านม ควรเข้ารับการตรวจเพื่อหาแนวทางการดูแลรักษาที่ถูกวิธี
อาการมะเร็งเต้านม- คลำพบก้อนบริเวณเต้านม หรือใต้รักแร้
- เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างเปลี่ยนไป
- ผิวหนังที่เต้านมบุ๋มลงไปคล้ายลักยิ้ม
- มีของเหลวที่ไม่ใช่น้ำนมไหลออกจากหัวนม
ตรวจคัดกรองมะเร็งตับ
สามารถตรวจได้จากการตรวจเลือดเพื่อหาค่าบ่งชี้มะเร็งตับ และการทำอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจดูก้อนในตับ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบบ่อยอันดับ 1 ในผู้ชายและอันดับ 2 ในผู้หญิง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดมะเร็งตับ ได้แก่ โรคตับแข็ง ดื่มแอลกอฮอล์ และเกิดจากไวรัสตับอักเสบทั้งชนิดบีและซี โดยโรคมะเร็งตับจะมีอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจง และมีการดำเนินโรคที่รวดเร็ว
อาการมะเร็งตับ- ปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณใต้ชายโครงขวา หรือบริเวณลิ้นปี่
- ท้องบวมโตขึ้น มีน้ำในช่องท้อง
- น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
- รู้สึกอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
เป็นการตรวจภายในหรือที่เรียกว่า การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test) ร่วมกับการตรวจหาไวรัส HPV ซึ่งผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป และไม่ว่าจะเคยมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้
อาการมะเร็งปากมดลูก- มีเลือดไหลออกจากช่องอย่างผิดปกติ หรือมีเลือดออกในผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว
- มีประจำเดือนมาก หรือนานกว่าปกติ
- มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
- ปวดท้องน้อย หรือปวดท้องบริเวณอุ้งเชิงกรานที่ไม่ใช่ปวดประจำเดือน
ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้
สามารถตรวจคัดกรองได้จากการตรวจอุจจาระดูเลือดปน และการตรวจด้วยวิธีการส่องกล้องลำไส้ (Colonoscopy) สำหรับคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นโรคมะเร็ง และผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
อาการมะเร็งลำไส้- ขับถ่ายผิดปกติ ท้องเสียสลับท้องผูก หรือท้องอืดบ่อยๆ
- อุจจาระปนเลือดสดๆ หรือเลือดสีคล้ำมาก
- อ่อนเพลียหรืออ่อนแรง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีอาการจุกเสียด แน่น หรือปวดท้องบ่อยๆ
วิธีการรักษาเมื่อเป็นโรคมะเร็ง- การผ่าตัด การผ่าเอาก้อนที่เป็นมะเร็งออกไป
- รังสีรักษา การให้รังสีกำลังสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
- เคมีบำบัด การให้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
- ฮอร์โมนบำบัด การใช้ฮอร์โมนเพื่อยุติการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- การรักษาแบบผสมผสาน การรักษาร่วมกันหลายวิธีดังกล่าวข้างต้น แต่จะใช้วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค
รู้อย่างนี้แล้ว ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพ และการตรวจคัดกรองมะเร็ง ร่วมกับการหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของตัวเองอยู่เสมอ เพราะหากพบความผิดปกติก็จะสามารถวางแผนการรักษาได้ตรงจุด เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสุดขีดอีกครั้ง โดยไร้ข้อจำกัดเรื่องสุขภาพ
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
คลินิกอายุรกรรม อาคาร 5 ชั้น 1
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร. 02-514-4141 ต่อ 5188 - 5189