ถ้าให้พูดถึง ดวงตา ก็ต้องยอมรับกันว่าเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญมากที่ทุกคนต่างก็อยากจะรักษาให้มีสุขภาพดีไปตลอดชีวิต

และยิ่งเป็นสุขภาพตาของลูกน้อยที่เป็นเหมือนดวงใจของคุณพ่อคุณแม่ด้วยแล้ว ยิ่งต้องดูแลกันเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

การดูแลสุขภาพตา…คือสิ่งที่ต้องใส่ใจ

เพื่อให้ได้มาซึ่งสุขภาพตาที่ดี เราต้องดูแลเอาใจใส่กันตั้งแต่แรกเกิดกันเลยทีเดียว เริ่มจาก

- ตั้งแต่แรกเกิดในเด็กที่คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย และต้องอยู่ตู้อบเพื่อให้ออกซิเจน จำเป็นต้องได้รับการตรวจตาจากจักษุแพทย์ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อประเมินโรคเส้นเลือดเติบโตผิดปกติที่จอประสาทตา (Retinopathy of prematurity, ROP) ซึ่งหากเกิดขึ้น ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ด้วยเลเซอร์หรือการผ่าตัด ไม่เช่นนั้นอาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมาจนถึงขั้นตาบอดเลยก็ได้

- ในเด็กอายุ 2-3 เดือนขึ้นไป ถ้าหากเด็กยังไม่มองหน้าแม่ หรือไม่ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม คล้ายมองไม่เห็น ต้องได้รับการตรวจโดยจักษุแพทย์ก่อนที่จะสายเกินแก้

- เด็กในวัยเข้าเรียนที่ดูหนังสือ หรือโทรทัศน์ใกล้มากผิดปกติ เช่นต้องเอียงคอมอง หยีตามอง กระพริบตาบ่อย อาจมีปัญหาทางสายตาสั้น ยาว เอียง หรือสาเหตุอื่น ต้องได้รับการตรวจโดยจักษุแพทย์ เพื่อหาวิธีการรักษาได้อย่างถูกต้อง

วิธีดูแลแบบง่ายๆ… ที่ทำเองได้ทุกบ้าน

เริ่มจากคอยดูแลร่างกายของเด็กๆ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อถึงเวลาที่ต้องอ่านหนังสือหรือทำการบ้าน ควรให้เขานั่งในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ และอีกข้อสำคัญสำหรับเด็กที่เกิดในยุคดิจิตอลนั่นก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามอย่าให้เด็กเล่นโทรศัพท์ หรือแท็ปเล็ตมากจนเกินไป เพราะแสงสีฟ้า (Blue Light)นั้นเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา การดูโทรทัศน์ใกล้และนานเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพตาของลูกน้อยเช่นกัน

การป้องกันไว้ก่อน ย่อมดีกว่าต้องตามมานั่งแก้ไขทีหลัง ในวันที่อาจจะสายเกินไป เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นพาเด็กไปพบกับจักษุแพทย์เป็นประจำ ซึ่งการตรวจนั้นสามารถเริ่มได้ตั้งแต่แรกเกิด