“อาการชัก” เป็นสิ่งที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากให้เกิดกับลูกที่เป็นเหมือนดวงใจ เราจึงต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ หากวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์นี้กับลูกขึ้นมาจริงๆ จะได้รับมือได้อย่างทันท่วงที
อาการชัก…เกิดจากอะไร?
จริงๆ แล้วอาการชักในเด็กเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆ ที่เป็นบ่อยที่สุดก็คือ เกิดจากการที่มีไข้ขึ้นสูงเกิน 39 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน จนทำให้เด็กมีอาการชักเกิดขึ้น ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับเด็กเล็กอายุ 6 เดือน-6 ปี ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ตกใจแทบทำอะไรไม่ถูกแล้ว หากปล่อยให้ลูกชักเป็นเวลานาน ยังจะทำให้เกิดอันตรายกับการเจริญเติบโตของสมองลูกน้อยด้วย
นอกจากนี้หากเด็กๆ มีอาการไข้หวัด ต่อมทอนซินอักเสบ หูอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ บางรายหากอาการค่อนข้างหนักอาจเกิดจากสมองอักเสบด้วยเชื้อไวรัส วัณโรคเยื่อหุ้มสมอง บาดทะยัก พยาธิขึ้นสมองจากอาหารปรุงไม่สุก ก็อาจจะทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน
เมื่อลูกน้อยเกิดอาการชัก…นี่คือสิ่งที่ต้องทำ
สิ่งที่พ่อแม่ต้องรีบทำก็คือตั้งสติ อย่าเพิ่งตกใจ และเริ่มต้นด้วย
1.พยายามจับลูกน้อยให้นอนตะแคงกับพื้น และพยายามอย่าให้มีอะไรติดค้างอยู่ในปาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำลายหรือเศษอาหารที่อาเจียนออกมา
2.อย่าพยายามงัดปาก อย่างที่หลายๆ คนเชื่อว่าเวลาที่เด็กชักจะกัดลิ้นตัวเอง ซึ่งคุณหมอหลายๆ ท่านบอกว่ามีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างยาก หากใส่วัตถุอะไรเข้าไปจะยิ่งทำให้เกิดอันตรายมากกว่าเดิม
3.หากมีอาการชักพร้อมไข้ขึ้นสูง (มากกว่า 5 องศาเซลเซียส) พยายามเช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดา ด้วยการเช็ดย้อนรูขุมขน หรือเข้าหาหัวใจ วัดไข้เป็นระยะ หลังจากเด็กหยุดชักแล้วให้รีบพาไปส่งโรงพยาบาลพบแพทย์เป็นการด่วน ซึ่งส่วนใหญ่หากมีประวัติชัก คุณหมออาจจะให้ยากันชักมาทานด้วย
4.ในกรณีที่เคยชักมาก่อน หากมีอาการไข้ขึ้นสูงเมื่อไหร่ นอกจากทานยาลดไข้แล้ว ส่วนใหญ่จะป้องกันด้วยการทานยากันชักไปพร้อมกันด้วยเลย
เมื่ออายุ 7 ปีขึ้นไป…อาการชักจะหายได้เอง เนื่องมาจากพออายุมากขึ้น สมองของเด็กจะเกิดการเจริญเติบโต ทำให้เริ่มต้านทานต่อความร้อนมากขึ้น และนั่นก็ทำให้เด็กมีโอกาสชักน้อยลงเรื่อยๆ และจะหายไปได้เองตอนอายุ 7 ปีขึ้นไป
สอบถามรายละเอียด
ศูนย์กุมารเวช อาคาร 3 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 3220 – 3221
.jpg)
ปรึกษาแพทย์ออนไลน์
