จะรู้ได้อย่างไร…ว่าเป็น “ไวรัสตับอักเสบ”
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
03-ก.ย.-2561
ไวรัสตับอักเสบเป็นอีกโรคหนึ่งที่คนไทยควรให้ความสำคัญ เพราะไวรัสตับอักเสบถือเป็นโรคที่สาธารณสุขทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในประเทศที่พบผู้ที่เป็นพาหะและเป็นโรคไวรัสตับอักเสบมาก ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ถึงอันตรายของการเป็นไวรัสตับอักเสบที่มีอันตรายถึงชีวิต และที่สำคัญผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบมักจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอยู่ จนกระทั่งเกิดอาการป่วยบ่อยๆ จนกลายเป็นอาการเรื้อรัง


รู้จัก “ไวรัสตับอักเสบ” กันก่อน…

ไวรัสตับอักเสบมีหลายชนิดทั้ง ไวรัสตับอักเสบเอ, บี, ซี, ดี, และอี แต่ที่มีอันตรายและได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ก็คือไวรัสตับอักเสบบี เมื่อเราได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบเข้าไปแล้ว เชื้อจะเข้าไปเติบโตและพัฒนาจนเป็นไวรัสที่สมบูรณ์อย่างเต็มที่ภายในตับ และแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งนอกจากเชื้อไวรัสตับอักเสบสามารถทำให้เกิดอาการป่วยเรื้อรัง ไวรัสยังอาจทำให้ตับแข็ง และอาจจะมีอาการร้ายแรงจนกระทั่งเป็นมะเร็งในตับได้อีกด้วย

“เชื้อไวรัสตับอักเสบ” มาจากไหน

เชื้อไวรัสตับอักเสบสามารถติดต่อได้จากการสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้มีการป้องกัน ได้รับสารคัดหลั่งหรือเลือดจากผู้ที่เป็นพาหะ หรือการใช้ของร่วมกันกับผู้ที่เป็นพาหะเช่น การใช้ผ้า แปรงสีฟัน เข็มฉีดยา เป็นต้น หรืออาจจะได้รับเชื้อตั้งแต่คลอดเลยก็ได้ จากการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก และในเมื่ออาการของคนเป็นพาหะหรือมีเชื้อไวรัสตับอักเสบไม่แสดงออกมาให้เห็น ทำให้เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครเป็นหาพะหรือกำลังเป็นไวรัสตับอักเสบบ้าง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองติดเชื้อก็คือ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใช้ของร่วมกับผู้อื่น

เราจะรู้ได้ยังไง… ว่าเราติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ…เข้าให้แล้ว

อย่างที่บอกว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบมักจะไม่ทราบว่าตัวเองกำลังป่วยด้วยไวรัสตับอักเสบ เพราะจะมีอาการเพียงแค่เป็นไข้ เป็นหวัด ปวดเมื่อยตามตัวเหมือนการเป็นไข้ทั่วๆ ไป ซึ่งอาการเหล่านี้เองทำให้เราไม่สามารถบอกได้เลยว่าเรากำลังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอยู่หรือไม่ จนกระทั่งอาการเริ่มแสดงออกหนักขึ้นเช่น มีอาการตับอักเสบ ตัวเหลือง ตาเหลือง ตับจะทำงานหนักกว่าปกติเพื่อต่อต้านกับเชื้อไวรัส อาการเหล่านี้จะช่วยบ่งชี้ได้ว่าเรากำลังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตามอาการจะดีขึ้นภายใน 2 – 3 สัปดาห์ เมื่อร่างกายสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสตับอักเสบได้แล้ว และมักจะเป็นแล้วหายภายใน 6 เดือน หลังจากนั้นจะไม่กลับมาเป็นอีก

แต่สำหรับผู้ที่ป่วยมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป นั่นแปลว่าอาจจะกำลังเป็นโรคไวรัสตับอักเสบเรื้อรังอยู่! เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสนี้ได้ แต่ผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบเรื้อรังส่วนใหญ่จะได้รับเชื้อมาตั้งแต่เด็กๆ จนเป็นโรคเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ มาจนกระทั่งตอนโต อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราทราบว่าเราเป็นไวรัสตับอักเสบอยู่หรือไม่คือ การตรวจเลือด เพื่อตรวจเชื้อไวรัสในกระแสเลือด ดังนั้นการตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะทำให้เราทราบถึงภาวะอาการป่วยในร่างกายของเราได้ดีที่สุด

ข้อมูลจาก ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
สอบถามเพิ่มเติมโทร.02-514-4141 ต่อ 1210



แพทย์ประจำศูนย์ นพ.สิริพงษ์ โสภิตภักดีพงษ์
อายุรแพทย์ประจำศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4