เมื่อมีนิ่วเกิดขึ้น บางคนอาจมีอาการตั้งแต่ท้องอืด อาหารไม่ย่อย บางรายมีก้อนนิ่วเข้าไปอุดท่อถุงน้ำดี ส่งผลให้มีอาการปวดท้อง ชนิดที่ว่าปวด รุนแรง ขณะเดียวกันถ้านิ่วตกลงไปอุดท่อน้ำดีใหญ่ก็จะส่งผลให้มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง ตับอ่อนอักเสบตามมาและอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ แต่หากเราสามารถรับรู้ก่อน แก้ไขทัน ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
คุณสุรศักดิ์ มัฆวาฬ อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้เข้ารับการผ่าตัดผ่านกล้อง “นิ่วในถุงน้ำดี” บอกเล่าประสบการณ์ ให้ฟังว่า “อาการเริ่มต้นที่ทำให้รู้สึกว่าผิดปกติคือ ปวดท้อง เสียดไปถึงหลัง ตามมาด้วยอยากอาเจียนอยู่ตลอดเวลา ผมไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน เป็นอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ขณะนั้นก็พบแพทย์มาโดยตลอดเพราะสงสัยว่าเป็นโรคกระเพาะกระทั่งคุณหมอสงสัยเกี่ยวกับอาการที่เป็นอย่างต่อเนื่อง จึงซักถามเพิ่มเติมถึงเรื่องสีของปัสสาวะเราว่าเป็นสีเหลืองเข้มหรือไม่ รับประทานน้ำน้อยหรือเปล่า ซึ่งผมดื่มน้ำเยอะมาก แต่ปัสสาวะยังมีสีเหลืองอยู่ คุณหมอจึงสั่งตรวจเช็คสุขภาพอย่างละเอียดจึงพบว่าเรามีนิ่วในถุงน้ำดี และต้องเข้ารับการผ่าตัด”
เมื่อการรักษาต้องอาศัยการผ่าตัด
“หลังจากทราบว่าต้องผ่าตัด ความรู้สึกตอนนั้นคือผมงงมาก เพราะเราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน จำได้ว่าผมนิ่งไประยะหนึ่งเหมือนโดนสะกด รู้ว่าคุณหมออธิบายเรื่องการผ่าตัด แต่เหมือนเราไม่รับรู้อะไรแล้ว พอตั้งสติได้จึงโทรศัพท์หาแฟน กลับบ้านตั้งหลักเตรียมตัว เตรียมใจ หาข้อมูลการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีทั้งคืน จากตอนแรกที่กลัวก็ค่อยๆ สบายใจขึ้น เพราะรู้ว่ามีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เปิดแผลเล็กๆ พอรุ่งเช้าก็เข้ามาพบแพทย์อีกครั้งเพื่อสอบถามอย่างละเอียดเรื่องการผ่าตัดผ่านกล้อง
โดยผมได้รับข้อมูลจาก นพ. วิทยา ยุทธวรวิทย์ และนพ.กิตติชัย กุลธนปรีดา ศัลยแพทย์ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธินเกี่ยวกับการผ่าตัด ซึ่งก็ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น และไม่รู้สึกกลัว
“คุณหมอพูดให้ฟังเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา การผ่าตัดไม่ได้น่ากลัว ไม่เจ็บ แผลเล็กนิดเดียว ซึ่งผมก็ตัดสินใจผ่าเลยโดยพักที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนเพื่อเตรียมพร้อมร่างกาย เช้าอีกวันถึงเข้าห้องผ่าตัด จำได้ดีว่าเข้าไปประมาณ 8 โมงเช้า คุณหมอทักทายแบบเป็นกันเอง บรรยากาศค่อนข้างผ่อนคลาย ออกจากห้องผ่าตัดประมาณบ่าย 2 ลืมตาตื่นขึ้นมาก็สบายๆ ไม่ได้ปวดแผล ไม่มีไข้ แค่รู้สึกแค่ว่ามีอาการจี๊ดๆ ที่ท้องบ้างสามารถลุกออกจากเตียง เดินเองได้ เข้าห้องน้ำเองได้เลย ใช้เวลาพักฟื้นนอนโรงพยาบาลอยู่ 3 คืน ก็กลับบ้านใช้ชีวิตทำกิจวัตรประจำได้ตามปกติ แต่เลี่ยงการยกของหนัก และอาหารรสจัดเท่านั้น”
ชีวิตหลังการผ่าตัด
“ผ่านมาประมาณ 2 สัปดาห์ ผมก็ขึ้นรถเมล์โหนรถเมล์ได้เหมือนเดิม (ยิ้ม)แต่ก็ดูแลตัวเองมากขึ้น ดื่มน้ำเยอะ รับประทานอาหารจืดๆของทอดของมันผมไม่ค่อยรับประทานอยู่แล้ว ส่วนบุหรี่ แอลกอฮอล์ผมก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ณ ตอนนี้คืออาการปกติมากครับ อยากฝากบอกคนที่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ ให้รีบมาพบแพทย์ เพราะของผมก็หาสาเหตุไม่ได้ ผมไม่ได้ชอบทานของหวาน มัน ทอด ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ แต่ก็ยังเกิดโรคนี้ได้ การตรวจเช็คสุขภาพสม่ำเสมอเป็นเรื่องที่ดี หากตรวจเจอก็รีบรักษา ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถ้าปล่อยไว้นั่นแหละผมว่าน่ากลัว เพราะอาการอาจจะรุนแรง เท่าที่ทราบคือทำให้เสียชีวิตได้เลยครับ”
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ศัลยกรรมทั่วไป อาคาร 1 ชั้น 4
โทร.0-2271-7000 ต่อ 10437
ปรึกษาแพทย์ออนไลน์
