นพ.รัตนภูมิ วัฒนปัญญาสกุล

แพทย์เฉพาะทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น

วุฒิบัตร

กุมารเวช แพทย์เฉพาะทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
วัน เวลา
พุธ 17:00 - 20:00
การได้ดูแลเด็ก ๆ และส่งเสริมให้เขาได้เติบโตอย่างแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจนั้น นับเป็นความสุขของหมอ ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันและกำลังใจในการทำงานต่อไป

นอกจากปัญหาสุขภาพแล้ว “พฤติกรรมและจิตใจ” ก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ


นพ.รัตนภูมิ วัฒนปัญญาสกุล แพทย์เฉพาะทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ประจำโรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4 บอกถึงเหตุผลที่เลือกเป็นจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น “เพราะเล็งเห็นว่านอกเหนือจากปัญหาสุขภาพทางด้านร่างกายแล้ว ในเรื่องของพฤติกรรมหรือจิตใจก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญดูแล เพราะวัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่สดใสง่ายต่อการเกิดปัญหา การปรับตัวไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายและจิตใจ จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อที่เด็กๆ เหล่านั้นจะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและสามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้อย่างเต็มที่”



การพบหมอจิตเวชเด็กไม่ใช่ลูกเป็น “โรคจิต” แต่คือการป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้

แม้หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเรื่องจิตเวชเด็กและวัยรุ่นเป็นเรื่องใหม่ และการพาลูกมาพบหมอจิตเวชเด็กอาจจะทำให้หลายคนมองว่าเด็กคนนั้นมีสภาวะจิตใจที่ผิดปกติ หรือกลัวลูกโดนมองว่าบ้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคุณหมออธิบายว่า “การที่พาลูกมาพบเพื่อรับคำปรึกษานั้นไม่ได้หมายความว่าลูกของคุณมีสภาวะจิตใจไม่ปกติ แต่การมาพบพูดคุยนั้นเป็นป้องกันปัญหาสุขภาพที่จะเกิดกับลูกทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจมากกว่าที่จะเป็นรักษาด้วยซ้ำ”


“เด็กพูดช้า ติดเกม ก้าวร้าว ซึมเศร้า” พฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

แน่นอนว่าในการรักษาหรือพูดคุยถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดจากจิตใจและพฤติกรรมนั้น จะต้องใช้เวลาในการพูดคุยทำความเข้าใจมากกว่าการดูแลรักษาโรคที่เกิดทางกาย ดังนั้นในการให้คำปรึกษากับพ่อแม่แต่ละคน คุณหมอจะให้เวลาอย่างเต็มที่ยาวนาน เพราะมองว่าการสื่อสารกับพ่อแม่ผู้ปกครองนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจในสิ่งที่คุณหมอแนะนำอย่างละเอียดและลึกซึ้ง เพื่อนำไปปฏิบัติในการดูแลรักษาได้อย่างถูกต้อง

ในส่วนของปัญหาที่พ่อแม่มักจะพาลูกเข้าพบคุณหมอ มักจะเป็นเรื่องของเด็กพูดช้า เด็กติดเกม เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือบางครั้งก็เป็นเด็กที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า


ความสำเร็จในการรักษา… คือกำลังใจในบทบาทของแพทย์จิตเวชเด็กและวัยรุ่น

“สำหรับคุณหมอแล้วการที่ได้ดูแลเด็ก ๆ และส่งเสริมให้เขาได้เติบโตเป็นอย่างแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจนั้น นับเป็นความสุขของคุณหมอ ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันและกำลังใจในการทำงานของคุณหมอต่อไป สมกับปณิธานของคุณหมอที่ตั้งใจไว้ว่า “อย่าได้กลัวที่จะก้าวไป แต่จงกลัวที่จะยืนนิ่งเฉย”