เช็กความเสี่ยง โรคมะเร็งตับ
โรงพยาบาลเปาโลเกษตร
20-เม.ย.-2566

เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ตับโตจนคลำได้ เช็กอาการโรคมะเร็งตับ

โรคมะเร็งตับ เป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรคมะเร็งที่เกิดในผู้ชายไทย โดยมักพบในกลุ่มคนอายุ 30 -70 ปี และพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2 3 เท่า เนื่องจากผู้ชายจะมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง ซึ่งโรคมะเร็งตับมักจะไม่ไม่แสดงอาการออกมาในระยะแรก

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับ

🔹 เพศชาย
🔹ผู้ป่วยที่มีประวัติไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี
🔹กลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะตับแข็งจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ภาวะไขมันเกาะตับ เป็นต้น
🔹การได้รับสารอะฟลาท็อกซิน Aflatoxin หรือเชื้อราที่อยู่ในถั่วลิสงที่อับชื้น พริกแห้ง กระเทียม และหัวหอม เป็นต้น

อาการมะเร็งตับ
ส่วนใหญ่อาการของมะเร็งตับมักจะไม่แสดงอาการออกมาในระยะแรก แต่เมื่อเป็นมากขึ้นอาจมีอาการ ดังนี้

🔸 ปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณข้างขวาส่วนบน ซึ่งในบางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปที่หลังหรือไหล่ร่วมด้วย

🔸 ท้องบวมขึ้น
🔸 น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
🔸 เบื่ออาหาร ไม่รู้สึกอยากทานอาหาร
🔸 รู้สึกอ่อนเพลีย
🔸 มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ
🔸 ตับโต จนคลำได้ก้อนที่บริเวณตับ
🔸 ตัวเหลือง และตาเหลือง

การวินิจฉัยโรคมะเร็งตับ
🔹 การซักประวัติ และการตรวจร่างกาย
🔹 การตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง
🔹 การตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ
🔹 การทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT scan หรือในบางครั้งอาจจะต้องใช้การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI เพื่อช่วยในการวินิจฉัยร่วมด้วย
🔹 การตรวจชิ้นเนื้อตรงตำแหน่งก้อนเนื้อ Biopsy



วิธีการรักษาโรคมะเร็งตับในปัจจุบัน
ปัจจุบันแนวทางการรักษามะเร็งตับ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาร่วมกัน ได้แก่ ขนาดก้อนเนื้อ และจำนวนก้อนเนื้อในตับ การกระจายของโรค ค่าการทำงานของตับ และสมรรถภาพความพร้อมทางร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งถ้าหากเป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้น สามารถรักษาให้หายขาดได้โดย การผ่าตัดตับเพื่อเอาก้อนเนื้อมะเร็งออก หรือ จี้ทำลายก้อนมะเร็ง หรือ การผ่าตัดเปลี่ยนตับ แต่ถ้าหากเป็นมะเร็งมะเร็งตับระยะลุกลาม เป้าหมายในการรักษาเพื่อชะลอการโตของก้อนเนื้อ และป้องกันการเกิดผลแทรกซ้อนจากก้อนเนื้อ โดยการฉีดยาและอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อน หรือ การฉายแสงที่ก้อน หรือการให้ยากินเพื่อประคับประคองมะเร็งตับ

อย่างไรก็ตาม การป้องกันมะเร็งตับที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะตับแข็ง ได้แก่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ลดความอ้วน ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันการเกิดมะเร็งตับในอนาคต แต่หากไม่มั่นใจว่าตนเองกำลังเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งตับหรือไม่ แนะนำให้เข้ารับการตรวจเช็กสุขภาพ พบแพทย์ปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจ ค้นหาโรค และวิธีการดูแลตนเองเพื่อหลี่กเลี่ยงการเป็นโรคมะเร็งตับ