ร้อนแบบนี้ ต้องระวังโรคที่มากับหน้าร้อน
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
14-เม.ย.-2566

“ช่วงหน้าร้อนแบบนี้”  หลายๆคนคงไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเลย แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องออกบ้าน ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปเรียน หรือไปซื้อของจำเป็นส่วนตัว ทำให้คุณต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว จนทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม ซึ่งอาจทำให้คุณภาพชีวิตของคุณในเเต่ละวันเเย่ลงได้ ดังนั้น มาดูแลสุขภาพร่างกายให้เเข็งเเรง เพื่อป้องกันให้คุณห่างไกลจาก “โรคที่มากับหน้าร้อน” นี้

 

อุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea)

เป็นภาวะที่มีการถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ภายใน 24 ชั่วโมง หรือถ่ายเป็นมูกเลือดมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งสามารถหายได้เองหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น อาจจะถ่ายเหลวเป็นน้ำมากกว่า 10-20 ครั้งต่อวัน และไม่สามารถรับประทานอาหารหรือน้ำได้เลย ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะช็อก หรือหมดสติจากการขาดน้ำได้

อาการอุจจาระร่วงเฉียบพลัน ที่ต้องรีบพบแพทย์

  • ปวดท้องอย่างรุนแรง
  • ปวดศีรษะ
  • มีไข้
  • คลื่นไส้
  • อ่อนเพลีย


ไข้ไทฟอยด์ หรือ ไข้รากสาดน้อย (Typhoid)

เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Typhi โดยเชื้อชนิดนี้สามารถแพร่กระจายไปยังทุกส่วนของร่างกายได้ ซึ่งติดต่อได้จากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน และเมื่อเราสัมผัสกับเชื้อชนิดนี้แล้ว อาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้ อีกทั้ง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงขั้นอันตรายถึงชีวิตได้

อาการไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย

  • ไข้สูง
  • เบื่ออาหาร
  • แน่นท้อง
  • ท้องผูก


อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)

เป็นโรคที่พบบ่อยในช่วงหน้าร้อน ซึ่งเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อโรคจำพวก S.aureus หรือ B. cereus หรือ C. perfringens ส่วนใหญ่จะมีอาการหลังจากรับประทานที่มีรสจัด หรืออาหารที่ปรุงไม่สุกพอ เช่น อาหารค้างคืน เนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก หรือทานดิบ ๆ และเมื่อรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไปแล้ว อาจทำให้เกิดอาการต่างๆตามมา ที่ทำให้การใช้ชีวิตของคุณอาจแย่ลง

อาการอาหารเป็นพิษ

  • อาเจียน ติดต่อกันไม่หยุดหรือมี เลือดออก
  • ปวดท้องในลักษณะปวดบิดเป็นพักๆ
  • ท้องเสีย
  • คลื่นไส้หรืออาเจียน


อหิวาตกโรค (Cholera)

เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงและสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย วิบริโอ โคเลอรี (Vibrio Cholerae) ซึ่งเชื้อจะเข้าไปอยู่บริเวณลำไส้ และจะสร้างพิษออกมา และทำปฏิกิริยากับเยื่อบุผนังลำไส้เล็ก ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างกายเสียน้ำหรือเกลือแร่อย่างรวดเร็ว และหากปล่อยไว้ให้อาการรุนแรง ก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้ โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก หรือสดสะอาดนั่นเอง  

อาการอหิวาตกโรค

  • ถ่ายเหลวเป็นน้ำสีคล้ายน้ำซาวข้าว
  • ถ่ายมีมูกเลือด
  • ปวดท้องน้อยมาก
  • อาจมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย



โรคบิด  (Dysentery)

โรคบิดจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ก็คือ มีตัวก่อบิด และไม่มีตัวก่อบิด ซึ่งโรคบิดที่มีตัวก่อบิดจะเกิดจากเชื้ออะบีนา และเมื่อเชื้ออะมีบาเข้าไปสู่กระแสเลือด หรือแพร่ไปยังอวัยวะภายในต่างๆ ก็อาจทำให้เนื้อเยื่อในอวัยวะต่างๆถูกทำลาย หรือก่อให้เกิดฝีที่อวัยวะต่าง ๆ และอาจเกิดอาการติดเชื้อ หรืออาการอื่น ๆ ที่รุนแรงขึ้น ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีก็อาจทำให้อันตรายถึงชีวิตได้

อาการที่มีตัวก่อบิด

  • ปวดท้องเวลาถ่าย
  • ถ่ายปนมูกปนเลือด
  • อาจมีฝีในตับ
  • ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง

อาการที่ไม่มีตัวก่อบิด

  • ไข้สูง
  • ถ่ายเป็นมูกปนเลือด
  • ปวดท้อง
  • อาเจียน
  • เบื่ออาหาร


ยิ่งสูงวัย ยิ่งต้องระวังในช่วงหน้าร้อน

ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงหน้าร้อนนี้ ทำให้เสี่ยงเกิดภาวะขาดน้ำได้ โดยเฉพาะวัยผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคนในครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำที่รุนแรงจนถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้ เพราะหากเป็นแบบนั้นก็อาจทำให้เสี่ยงโรคแทรกซ้อนต่างๆตามมาด้วย ดังนั้น หากผุ้สูงอายุมีอาการ วิงเวียนศรีษะ หน้ามืด พูดจาสับสน ให้รีบนำมาพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เสี่ยงอันตรายรุนแรงมากขึ้นจนทำให้เสี่ยงเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือไตวายได้


5 วิธีดูแลสุขภาพในช่วงหน้าร้อน

  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้วขึ้นไป เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป เพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และต้องผ่านการปรุงสุกที่สดสะอาดอยู่เสมอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตประจำวันในสถานที่มีอากาศร้อนจัด แต่หากมีความจำเป็นต้องสัมผัสแดดควรทาครีมกันแดด สวมแว่นกันแดด หรือพกร่มไปด้วยทุกครั้ง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอากาศร้อนอาจทำให้แอลกอฮอล์ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็วกว่าปกติ
  • กลุ่มเสี่ยงที่เป็นเด็กเล็ก ผู้สูงวัย และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในห้องที่มีอากาศระบายได้ดี
  • ควรใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี หรือเลือกเสื้อผ้าที่สามารถดูดซับเหงื่อและระบายความร้อนได้ดี เพื่อไม่ให้ระคายเคืองผิวหนัง

 

ดังนั้น อย่าลืมดูเเลสุขภาพในช่วงหน้าร้อนนี้นะ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเสี่ยงเกิดโรคต่างๆที่มากับหน้าร้อนได้ เพราะหากเป็นแบบนั้นก็อาจทำให้การใช้ชีวิตในเเต่ละวันลำบากมากขึ้น หรือหากรุนเเรงไปกว่านั้นก็อาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้

 

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
คลินิกอายุรกรรม อาคาร 5 ชั้น 1
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย4
โทร. 02-514-4141 ต่อ 5188, 5189