สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่แรกคลอดด้วยการฉีด "วัคซีน"
โรงพยาบาลเปาโล
05-ม.ค.-2566
ทำไมเด็กถึงต้องฉีดวัคซีนด้วย? เชื่อว่าหลายคนอาจเคยสงสัย วันนี้เราจึงนำข้อมูลดีๆ มาฝากว่า... การฉีดวัคซีนในเด็กสำคัญอย่างไร? และทำไมคุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความใส่ใจพาลูกน้อยไปรับวัคซีนตามกำหนดในแต่ละช่วงอายุ


ทำไม “เด็ก” ต้องฉีดวัคซีน ?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงโรคระบาดต่างๆ นั้นมีการพัฒนาและมีโรคใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพราะหากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีชื่อโรคแปลกๆ หรือสายพันธุ์ของเชื้อโรคเพิ่มขึ้นมากจากในอดีต ซึ่งบางโรคก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่บางโรคนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและยังไม่มีวิธีหรือยาที่จะรักษาให้หายได้  ดังนั้นการป้องกันโดยการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่ร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำ ไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับผู้ใหญ่ จึงจำเป็นอย่างมากที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบถึงวัคซีนที่จำเป็นสำหรับลูกน้อย ทั้ง 'วัคซีนหลัก' และ 'วัคซีนเสริม' รวมถึง 'วัคซีนโรคใหม่ๆ' เพื่อให้ลูกน้อยได้มีเกราะป้องกันที่แข็งแรงจนสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคชนิดต่างๆ ได้

ทำความรู้จัก “วัคซีน” คืออะไร ?

วัคซีน (Vaccine) เป็นวัตถุทางชีวภาพที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ ส่วนใหญ่จะผลิตมาจากเชื้อโรค โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1.ทำจากเชื้อโรคที่ตายแล้วแต่ยังมีสารของเชื้อโรคนั้นอยู่ และ 2.ทำจากเชื้อโรคที่อ่อนแอ คือทำให้มันสลบ พิษจะได้ไม่รุนแรง เมื่อฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายของเรา ร่างกายเราก็จะสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคนั้นๆ ขึ้นมา

วัคซีนกับเด็กสำคัญแค่ไหน ?

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทารกแรกเกิดไปจนถึง 1 ขวบปีนั้น เด็กจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอในการต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ หากได้รับเชื้อโรคในช่วงนี้ เช่น เชื้อโรคหัด ไวรัสตับอักเสบ ก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และการจะสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กในช่วงนี้ได้ดีที่สุดก็คือการฉีดวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีน ก็เป็นการเอาแบคทีเรียหรือเชื้อโรคนั้นๆ มาทำให้อ่อนฤทธิ์หรือทำให้ตาย ก่อนที่จะฉีดเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาสู้กับโรค หากในวันใดวันหนึ่งเด็กได้รับเชื้อโรคเข้ามา ร่างกายก็จะสามารถกำจัดเชื้อโรคเหล่านั้นได้เพราะมีภูมิคุ้มกันแล้ว ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ การฉีดวัคซีน ก็คือการทำให้ร่างกายของเด็กได้รู้จักเชื้อโรคแต่ละชนิดล่วงหน้า ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ไม่มีฤทธิ์ทำหห้เกิดโรค แต่ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานไว้ก่อนนั่นเอง

วัคซีนพื้นฐานที่เด็กทุกคนต้องได้รับ

  • วัคซีนวัณโรค
  • วัคซีนคอตีบ
  • วัคซีนไอกรน
  • วัคซีนบาดทะยัก
  • วัคซีนโปลิโอ
  • วัคซีนหัดเยอรมัน
  • วัคซีนคางทูม
  • วัคซีนตับอักเสบบี
  • วัคซีนไข้สมองอักเสบเอจี
และวัคซีนทางเลือกอย่าง วัคซีนโรต้า ไอพี และวัคซีนอื่นๆ ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน

หลังฉีดวัคซีนทำไมเด็กถึงมีไข้ ?

เป็นเรื่องปกติที่หลังจากฉีดวัคซีนอาการไข้จะเกิดขึ้นกับเด็ก นั่นก็เพราะเมื่อร่างกายได้รับวัคซีน ซึ่งก็คือเชื้อโรคที่อ่อนแรงหรือตายแล้ว แอนติบอดี้ในร่างกาย (หรือส่วนที่เป็นภูมิคุ้มกัน) จะถูกกระตุ้นให้ทำงานเพื่อที่จะกำจัดวัคซีนหรือเชื้อโรคนั้นออกไป ในระหว่างนี้จึงทำให้เด็กเป็นไข้ตัวร้อนขึ้นมาได้ ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถเช็ดตัวให้เด็กเพื่อลดไข้ได้ โดยอาการไข้จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน สำหรับวัคซีนที่มักจะทำให้เด็กเป็นไข้มากที่สุด ก็คือ วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเด็กแต่ละคนด้วย เด็กบางคนอาจจะมีอาการตัวร้อนกับทุกวัคซีน และเด็กบางคนก็อาจจะไม่แสดงอาการใดๆ เลยก็เป็นได้

ถ้าฉีดวัคซีนไม่ครบจะเป็นอย่างไร ?

โดยทั่วไปแล้วหากได้รับวัคซีนไม่ครบ เช่น หากวัคซีนต้องฉีด 5 ครั้ง แต่ฉีดได้เพียง 3 ครั้ง ควรไปปรึกษาแพทย์ก่อนว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะถ้าหากปล่อยผ่านไปอาจทำให้เด็กได้รับเชื้อโรคและแสดงอาการที่รุนแรงของโรคได้ในอนาคต ในกรณีที่ยังฉีดไม่ครบแต่ระยะเวลายังผ่านไปไม่นาน ก็สามารถกลับมาฉีดย้อนหลังใหม่ได้ แต่ถ้าทิ้งระยะเวลามากกว่า 1 ปี ก็อาจจะต้องทำการเริ่มต้นฉีดใหม่ทั้งหมดในวัคซีนชนิดนั้นๆ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด

วัคซีนสำหรับเด็ก ถือเป็นเรื่องสำคัญและไม่ควรมองข้าม คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปฉีดวัคซีนให้ครบทุกครั้งตามที่แพทย์ได้นัดหมาย เพราะวัคซีนจะช่วยป้องกันลูกน้อยจากโรคต่างๆ ได้ หรือหากเกิดการติดเชื้อโรคนั้นๆ ขึ้นมา อาการก็จะไม่รุนแรงเท่ากับการที่ไม่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนเลย