ฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยโรคทางจมูกอักเสบ เช่น ไซนัสอักเสบ รวมถึงผู้ป่วย ภูมิแพ้ มีอาการรุนแรงขึ้น เนื่องจากเยื่อบุจมูกของผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบ มีความไวต่อการกระตุ้นมากผิดปกติทั้งสารก่อภูมิแพ้ และสารที่ไม่ใช่สารก่อภูมิแพ้ มลพิษในอากาศชนิดต่างๆ จึงสามารถกระตุ้นให้ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบมี อาการเยื่อบุจมูกอักเสบ บวมมากขึ้น
หากเยื่อบุจมูกบวมอยู่เป็นระยะเวลานาน อาจอุดกั้นรูเปิดของไซนัส ทำให้เกิดไซนัสอักเสบตามมาได้ หรือทำให้เยื่อบุรอบท่อยูสเตเชียน (ท่อเชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลาง และโพรงหลังจมูก มีหน้าที่ช่วยปรับความดันของหูชั้นกลางให้เท่ากับบรรยากาศภายนอก) บวม ทำให้มีการทำงานของท่อยูสเตเชียนที่ผิดปกติ และนำไปสู่โรคหูชั้นกลางอักเสบแบบมีน้ำขัง หรือหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลันได้อีกด้วย
ฝุ่นควันแบบไหน อันตรายกับผู้ป่วยไซนัสอักเสบ
จากการวิจัยพบว่าฝุ่นละอองที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่มีขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน โดยฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้สามารถเข้าไปในระบบทางเดินหายใจผ่านโพรงจมูกเข้าไปถึงถุงลมในปอด ทำให้เกิดการอักเสบ และการระคายเคืองเรื้อรัง และฝุ่นละอองจะมีพิษมากขึ้น หากฝุ่นละอองนั้นเกิดจากการรวมตัวของก๊าซบางชนิด เช่น:
• สารมลพิษซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีผลกระทบต่อสุขภาพ คือลดประสิทธิภาพการทำงานของปอด และผู้ที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจมีอาการมากขึ้น เมื่อหายใจเข้าไป มลพิษชนิดนี้จะแพร่ฟุ้งกระจายเข้าเส้นเลือดได้ทันที และหากได้รับซัลเฟอร์ไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไตออกไซด์ ขนาด 5-10 ppm.จะมีทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา และระบบทางเดินหายใจ
• สารมลพิษโอโซน มีผลต่อสุขภาพคือ ระคายเคืองตา จมูก และคอ แน่นหน้าอก และไอที่เกิดจากการเจ็บปวดเมื่อหายใจ
.jpg)
• สารพิษออกไซน์ของไนโตรเจน โดยเฉพาะไนโตรเจนมอนอกไซด์ และไนโตรเจนดออกไซน์ หากได้รับในปริมาณ 10 ppm. สัมผัสนานกว่า 8 ชั่วโมง จะทำลายปอด ทำให้เกิดปอดบวม และหากได้รับรับในปริมาณ 20-30 ppm. อาจทำให้เสียชีวิตได้ หรือเพิ่มความเสี่ยงโรคทางเดินหายใจในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
• สารมลพิษสารไฮโดรคาร์บอน มีผลต่อสุขภาพคือ สารมลพิษนี้จะทำปฏิกิริยาโฟโตเคมิคัล กลายเป็นหมอกผสมควัน ซึ่งประกอบไปด้วยโอโซน และออกซิแดนซ์ต่างๆ ก่อให้เกิดการระคายเคืองตา
**ppm. ย่อมาจาก part per million คือส่วนในล้านหน่วย วัดความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศ และน้ำ
ปัจจัยอื่นที่ทำให้กระตุ้นการเกิด “ไซนัสอักเสบ”
นอกจากมลพิษในอากาศ การเปลี่ยนแปลงของอากาศอย่างรวดเร็วตามธรรมชาติก็มีผลต่อผู้ป่วยเช่นกัน และอีกปัญหาที่อาจจะมองข้ามไปคือ ภาวะมลพิษทางอากาศภายในบ้านก็มีโอกาสเกิดได้ เช่น จากการใช้เตาอบ เตาแก๊ส ในที่อากาศถ่ายเทไม่ดี หรือ พิษจากควันบุหรี่ ฝุ่นภายในบ้าน ตัวไรในฝุ่นในบ้าน เกสรพืช ชิ้นส่วน หรือสิ่งขับถ่ายของแมลงที่อาศัยอยู่ในบ้าน เช่น แมลงสาบ ยุง แมลงวัน มด สารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญที่สุดในฝุ่นคือ ตัวไรฝุ่น นอกจากนี้ การว่ายน้ำสระที่ใส่น้ำยาคลอรีน หรือฆ่าเชื้อด้วยโอโซนอาจทำให้มีโอกาสเป็นไซนัสอักเสบเกิดขึ้น เพราะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุโพรงจมูก
.jpg)
การป้องกันตัวเองจากมลพิษ ฝุ่น ควันในอากาศ
ในส่วนของมลพิษ หมอก ฝุ่น ควันในอากาศนอกบ้าน การป้องกันที่สามารถทำได้คือ การใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเขม่าควัน และฝุ่นละออง หลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีการจราจรแออัด หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายใดๆ หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในบริเวณกลางแจ้ง หรือบริเวณที่มีฝุ่นควัน ผู้ที่เป็นไซนัสอักเสบควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เกิดอาการหวัด ภูมิแพ้ เพราะคนส่วนใหญ่ที่ป่วยเป็นไซนัสอักเสบ มักเกิดมาจากโรคภูมิแพ้ของจมูก ดังนั้น หากรู้ว่าอะไรเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ ก็ควรหลีกเลี่ยง หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร.0-2271-7000 ต่อ หู คอ จมูก