“ฝากครรภ์” เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ต้องใส่ใจเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ เพราะจะช่วยป้องกันหรือติดตาม “พัฒนาการของลูกในครรภ์” “ตลอดช่วง 9 เดือน” ซึ่งคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการฝากครรภ์ก็อาจจะตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ อาจตั้งคำถามต่างๆ ขึ้นมาเยอะแยะ เช่น ฝากครรภ์ที่ไหนดี ฝากครรภ์ครั้งเเรกต้องทำไง ฝากครรภ์ต้องเริ่มตอนไหน ฝากครรภ์ต้องตรวจอะไรบ้าง และฝากครรภ์ต้องใช้อะไรบ้าง ซึ่งคำถามเหล่านี้ที่คุณแม่สงสัยเรามีคำตอบให้
อาการเตือน เมื่อคุณแม่กำลังตั้งครรภ์
หลายๆคู่อาจกำลังมีแพลนที่จะลูก เพื่อให้ลูกมาเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวที่สมบรูณ์แบบ ซึ่งอาจไม่เคยมีประสบการณ์หรือข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ครั้งแรก ว่าอาการเตือนแบบนี้นะที่บ่งบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม่ว่าจะประจำเดือนขาด เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน อารมณ์แปรปวน ปัสาสาวะบ่อยผิดปกติ และคัดเต้านม เป็นต้น ซึ่งหากคุณมีอาการเตือนเหล่านี้ให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ทำไม? ท้องเเล้วต้องฝากครรภ์
สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ ก็คือการฝากครรภ์ เพราะการฝากครรภ์เป็นการตรวจติดตามหรือเฝ้าระวังความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ เช่น ครรภ์เป็นพิษ ดาวน์ซิลโดรม ซิฟิลิส และโรคเบาหวาน รวมทั้งเป็นการให้ความรู้หรือคำแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งจะมีการตรวจติดตามตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงวันคลอด เพื่อให้แน่ใจว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้คุณแม่หรือลูกในครรภ์มีสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งหากตรวจพบความผิดปกติในช่วงตั้งครรภ์ก็จะสามารถปรึกษากับคุณหมอได้ทันที เพื่อช่วยลดอัตราการแท้งแท้งบุตร หรือคลอดก่อนกำหนดนั่นเอง
ข้อดีของการฝากครรภ์ เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์- เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกในครรภ์ เช่น ภาวะแท้งบุตร และป้องกันการอักเสบติดเชื้อของลูกในครรภ์
- เพื่อช่วยป้องกันหรือลดภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปตามปกติ และสามารถคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย
- เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายหรือจิตใจ ให้แข็งแรงตลอดช่วงตั้งครรภ์ทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์
- เพื่อตรวจสอบว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้ ดำเนินไปอย่างปกติหรือไม่ เช่น รกเกาะต่ำ เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์โตช้า เป็นต้น
- เพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถรู้วันกำหนดคลอด หรือตำแหน่งของลูกครรภ์ได้อย่างชัดเจน
ฝากครรภ์ ต้องตรวจอะไรบ้าง ? - ตรวจร่างกายทั่วไป ซึ่งแพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับประวัติส่วนของคนในครอบครัวหรือโรคประจำตัวต่างๆ ที่อาจติดต่อไปสู่ลูกในครรภ์ได้
- ตรวจเลือด เพื่อหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดหรือภาวะเลือดจาง และตรวจหาโรคติดเชื้อบางอย่าง เช่น ซิฟิลิส หัดเยอรมัน ไวรัสตับอักเสบ และเอชไอวี (HIV) เป็นต้น
- ตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อดูว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้เป็นไปตามปกติหรือตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งหากตั้งครรภ์นอกมดลูกก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ตรวจปัสสาวะ เพื่อค้นหาความผิดปกติอื่นๆ เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะหรือไต เบาหวาน ภาวะขาดน้ำ และครรภ์เป็นพิษ เป็นต้น
ฝากครรภ์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?
1. บัตรประชาชนของคุณเเม่เเละคุณพ่อ เพื่อทำการเปิดประวัติที่โรงพยาบาล
2. ประวัติการรักษา การเเพ้ยา โรคประจำตัว เเละประวัติการเคยตั้งครรภ์หรือคลอดลูกมาก่อนหรือไม่
3. ข้อมูลเกี่ยวกับการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย ซึ่งจะนับจากวันเเรกของการมีประจำเดือนวันสุดท้าย
ฝากครรภ์ ในเเต่ละช่วงอายุครรภ์คุณเเม่จะต้องอะไรบ้าง ?
1. ฝากครรภ์ช่วงไตรมาสที่ 1 (เริ่มตั้งครรภ์ถึง 14 สัปดาห์)- ตรวจคัดกรองเชื้อแบคทีเรียจากกระเพาะปัสสาวะ
- ตรวจเลือด เพื่อตรวจหาโรคติดเชื้อต่างๆ หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม
- ตรวจคัดกรองภาวะความเสี่ยงดาวน์ซิลโดรม
- ตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์หรืออายุครรภ์ของคุณแม่
2. ฝากครรภ์ช่วงไตรมาสที่ 2 อายุครรภ์ 15-28 สัปดาห์- ตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยงโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- ในกลุ่มเสี่ยงจะมีการเจาะน้ำคร่ำ เพื่อตรวจหาโครโมโซมของลูกในครรภ์
- ตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อดูเพศของลูกในครรภ์ว่าเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย และดูพัฒนาการการเจริญเติบโตของลูกในครรภ์ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
3. ฝากครรภ์ช่วงไตรมาสที่ 3 อายุครรภ์ 29-42 สัปดาห์- ฉีดวัคซีนต่างๆเพื่อป้องกันโรคต่างๆที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนบาดทะยัก
- ตรวจนับการดิ้นของลูกในครรภ์ และฟังเสียงการเต้นของหัวใจ
- วัดความสูงของยอดมดลูก
- วางแผนการคลอดลูกที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ว่าควรคลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าคลอด เพื่อให้ปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์
เพราะฉะนั้น คุณแม่มือใหม่ต้องอย่ามองข้ามความสำคัญในการฝากครรภ์ เนื่องจากการฝากครรภ์จะช่วยให้ลูกในครรภ์ของคุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีพัฒนาการที่ดีรอบด้าน ผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่พร้อมดูแลรักษาด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย และกิจกรรมต่างๆที่ช่วยเสริมพัฒนาการของลูกในระหว่างตั้งครรภ์
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
ศูนย์สุภาพสตรี อาคาร 5 ชั้น 2
โทร. 02-514-4141 ต่อ 5148 - 5220
Line id : @Paolochokchai4