อาการแพ้ในเด็กเกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาไวต่อสารก่อภูมิแพ้ หรือสารระคายเคือง ซึ่งอาการแพ้ในเด็กอาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง รวมถึงอาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กร่วมด้วย แม้โรคภูมิแพ้ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมจนไม่มีอาการได้ หากรีบตรวจรักษาให้เหมาะสม
ภูมิแพ้คืออะไร?
โรคภูมิแพ้ เป็นโรคยอดฮิตที่พบได้ในทุกเพศ ทุกวัย แต่ในปัจจุบันพบว่าเด็กเป็นภูมิแพ้กันมากขึ้น โดยสาเหตุหนึ่งมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่สาเหตุสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง แมลงสาบ ควันบุหรี่ มลพิษและฝุ่นจิ๋ว (PM2.5) ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจ และมีผื่นขึ้นตามผิวหนัง ซึ่งโรคภูมิแพ้สามารถแสดงออกได้หลายระบบ
- โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เด็กจะมีอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก เหมือนเป็นหวัดเรื้อรัง ส่วนใหญ่จะพบในเด็กวัยเรียน เมื่อเจอฝุ่น หรืออากาศเย็น ก็จะทำให้มีอาการมากขึ้น และในบางรายมีอาการเยื่อบุตาอักเสบร่วมด้วย
- โรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคหอบหืด เด็กจะมีอาการ ไอ หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงวี้ด หรือหายใจเร็ว โดยเฉพาะเวลาตอนกลางคืน หรือขณะออกกำลังกาย
- โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ เด็กจะมีอาการคัน มีผื่นตามตัว ผิวแห้ง ในเด็กเล็ก มักเป็นที่แก้ม หัวเข่าและข้อศอก ในเด็กโตมักเป็นที่ข้อพับของแขนและขา ซึ่งในบางรายสัมพันธ์กับการแพ้อาหาร
- โรคแพ้อาหาร เด็กแพ้อาหารอาจมีอาการได้หลายระบบ ตั้งแต่ผื่นผิวแห้ง ผื่นลมพิษ หรืออาการทางระบบทางเดินอาหารเช่น อาเจียน ท้องเสีย และในบางรายมีอาการแพ้แบบรุนแรงได้ อาหารที่แพ้บ่อยในเด็ก ได้แก่ นมวัว ไข่ แป้งสาลี ถั่ว และอาหารทะเล
สาเหตุของภูมิแพ้
- การถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น ถ้าพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็จะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้มากกว่าคนอื่นหลายเท่า
- สิ่งแวดล้อม การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ผ่าน ทางการหายใจ การกินอาหาร หรือทางผิวหนัง ซึ่งบางครั้งอาจได้รับตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่ สารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยได้แก่ นมวัว ไข่ แป้งสาลี ถั่วเหลือง อาหารทะเล หรือสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ สุนัข แมว ละอองเกสร
อาการภูมิแพ้ในเด็ก
อาการแพ้ในเด็กแสดงออกได้หลายระบบ เช่น
- อาการทางจมูก : มีจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก
- อาการทางตา : คันตา เคืองตา ตาแดง
- อาการทางหลอดลม : ไอ หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงวี๊ด
- อาการทางผิวหนัง : ผิวแห้ง ผื่นคัน ผื่นลมพิษ
ปัจจุบันเราสามารถตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ โดยการทำทดสอบทางผิวหนัง หรือ การตรวจเลือด หากคุณสงสัยว่าลูกของคุณแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดไหน ก็สามารถเข้ามารับคำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านโรคภูมิแพ้ได้ เพื่อหาแนวทางการดูแลรักษาภูมิแพ้ตั้งแต่เนิ่นๆ และป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้รุนแรงมากขึ้น
เด็กนอนกรน ปัญหาที่เกิดจากภูมิแพ้
ปัญหาเด็กนอนกรน มักพบในเด็กหลายๆ คนที่เป็นโรคภูมิแพ้แล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งเกิดจากระบบทางเดินหายใจติดเชื้อบ่อยๆ ทำให้ต่อมทอนซิล และต่อมอะดีนอยด์ที่อยู่หลังโพรงจมูกอักเสบโตขึ้น ส่งผลให้อุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน เวลานอนจึงมีเสียงกรนหรือเสียงหายใจดัง ถ้าหากเป็นมากขึ้นก็อาจทำให้หยุดหายใจเป็นช่วงๆ ซึ่งอาจส่งอันตรายกับเด็กได้
การรักษาภูมิแพ้ในเด็ก
การรักษาโรคภูมิแพ้ในเด็กอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ และความรุนแรงของโรค โดยอาจมีการใช้ยาหรือใช้วิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย
- การรักษาด้วยยา มีทั้งยากิน ยาพ่น ยาหยอดตา ยาทาผิวหนัง ซึ่งควรอยู่ภายใต้ คำแนะนำของแพทย์
- การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เป็นการรักษาที่ดีที่สุดของภูมิแพ้ ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ แต่ในบางกรณีอาจหลีกเลี่ยงได้ยาก เช่น สารภูมิแพ้ในอากาศ ไรฝุ่น ละอองเกสรหญ้า
- การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ โดยการฉีดสารที่แพ้ทีละน้อย และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณจนผู้ป่วยเริ่มมีภูมิต้านทานต่อสารนั้น ซึ่งต้องรับการฉีดอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลา 3-5 ปี ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และในปัจจุบันเรายังมีวัคซีนภูมิแพ้ชนิดอมใต้ลิ้นซึ่งต้องใช้ต่อเนื่อง 3 ปีจึงจะได้ผลดี
เพราะฉะนั้น การตรวจภูมิแพ้เด็กโดยแพทย์เฉพาะทางด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน จะช่วยวินิจฉัยโรคและสามารถหาแนวทางการรักษาโรคภูมิแพ้ในเด็กได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของคุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องภูมิแพ้
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
กุมารเเพทย์ ศูนย์กุมารเวช อาคาร 3 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 3320-3221
Line id : @Paolochokchai4