ทำไมถึงควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม?
ในปัจจุบัน มะเร็งเต้านม ถือเป็น ‘มะเร็งที่พบบ่อยที่สุดของผู้หญิงไทย’ และยังเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งของผู้หญิงไทยด้วย แต่เราสามารถลดสถิตินี้ลงได้ ด้วยการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่เรียกว่า ดิจิตอลแมมโมแกรม ซึ่งสามารถตรวจพบความผิดปกติต่างๆ ของเต้านม รวมถึงค้นหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรกได้ดี นำไปสู่การรักษาที่รวดเร็ว และเพิ่มโอกาสหายขาดได้มากกว่าการตรวจพบภายหลังเมื่ออยู่ในระยะลุกลามแล้ว
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็น “มะเร็งเต้านม” ?
ผู้หญิงทุกคนล้วนมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม แต่จะมีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง เช่น
อาการแบบไหน? อาจใช่ “มะเร็งเต้านม” ที่ต้องรีบไปตรวจ
หากมีอาการเหล่านี้ แพทย์มักตรวจพบว่ามีความสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม ดังนั้นแม้มีอาการเหล่านี้เพียงเล็กน้อย ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดจะดีกว่า จะได้เริ่มทำการรักษาอย่างตรงจุดให้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายจากโรคได้
อันตรายของ “มะเร็งเต้านม”
หากพบว่าตนเองมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม แต่ไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ อาจส่งผลให้ก้อนมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณเต้านมขยายใหญ่และลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ของร่างกายได้ เช่น ตับ ปอด สมอง และกระดูก ซึ่งการแพร่กระจายของมะเร็งอาจเป็นระยะสุดท้ายของมะเร็งแล้ว ทำให้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และมีอัตราของการรอดชีวิตที่น้อยลง
ดังนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอแม้ไม่มีอาการสงสัย จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ โดยปัจจุบันการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการตรวจที่เรียกว่า “ดิจิตอลแมมโมแกรม” นั่นเอง
ทำความรู้จักกับ “ดิจิตอลแมมโมแกรม”
การตรวจคัดกรองเต้านมด้วยดิจิตอลแมมโมแกรม คือ การเอกซเรย์เต้านมเพื่อค้นหาความผิดปกติ ซึ่งอาจพบเนื้อที่มีเป็นลักษณะเป็นก้อน เห็นความหนาแน่นของเนื้อเต้านมที่ผิดปกติ การกระจัดกระจายของเนื้อเต้านมที่ผิดปกติ หรืออาจพบหินปูนในเต้านม
การตรวจนี้ จะช่วยให้พบความผิดปกติในระยะเริ่มแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการควบคุม และใช้ตัวรับสัญญาณภาพชนิดดิจิตอล โดยข้อมูลภาพที่ได้จะส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ไปปรากฏบนหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีความละเอียดสูง จึงสามารถตรวจหาความผิดปกติได้ดีกว่าการเอกซเรย์ทั่วไป และทำให้แพทย์ที่ทำการวินิจฉัย ทราบผลได้ในทันทีโดยไม่ต้องรออ่านผลภายหลัง
6 ข้อดีของดิจิตอลแมมโมแกรม (Digital Mammogram)
เมื่อไหร่ถึงควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม?
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป โดยแนะนำให้ตรวจทุกๆ 2 ปี แต่หากมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม แนะนำให้ตรวจเป็นประจำทุกปี เนื่องจากจะช่วยให้ตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ก่อนพบก้อนเนื้อหรือมีอาการผิดปกติ ซึ่งการตรวจพบในระยะแรกๆ จะช่วยให้การรักษาได้ผลดี มีโอกาสหายขาด
ดิจิตอลแมมโมแกรมควรตรวจช่วงใดดีที่สุด?
เมื่อต้องเข้ารับการตรวจ แนะนำให้ตรวจในช่วงหลังหมดประจำเดือน ไม่ควรนัดตรวจแมมโมแกรมในช่วงให้นมบุตร หรือเมื่อท่านรู้สึกคัดตึงเต้านม หรือในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน เพราะจะทำให้เจ็บระหว่างตรวจมากกว่าช่วงเวลาอื่น นอกจากนี้ ในวันที่ตรวจไม่ควรทาแป้ง สารระงับกลิ่นกาย โลชั่น บริเวณรักแร้หรือทรวงอก เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดจุดบนภาพ ทำให้ผลการวินิจฉัยคลาดเคลื่อนได้
การตรวจเต้านมเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ โดยควรเริ่มตรวจเต้านมด้วยตนเองง่ายๆ เป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้ง และหมั่นสังเกตเต้านมของตนเองว่ามีความผิดปกติหรือไม่ และในผู้หญิงที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมสูง ควรได้รับการตรวจด้วยวิธีดิจิตอลแมมโมแกรม เพราะมีโอกาสตรวจพบเจอมะเร็งเต้านมตั้งแต่ในระยะแรกได้ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
บทความโดย
นายแพทย์สุรินทร์ ดิกิจ
แพทย์ประจำสาขาศัลยกรรมทั่วไป
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
แผนก ศัลยกรรมทั่วไป อาคาร 1 ชั้น 1
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร 02-363-2000 ต่อ 2145-2146