รู้ไหมว่าโรคที่คนไทยเป็นกันเยอะมากที่สุดโรคนี้มีสาเหตุเกิดได้จากทั้งพฤติกรรมการกินที่ไม่ตรงเวลา และนิสัยการกินอาหารรสจัดติดต่อกันนานๆ จน เยื่อเมือกบุในกระเพาะอาหารเกิดการอักเสบ บวม แดง และยังมีอีกสาเหตุของการเกิด “โรคกระเพาะอาหาร” คือการติดเชื้อเอชไพโลไร จากการปนเปื้อนของแบคทีเรียในอาหารหรือน้ำที่ดื่มเข้าไป ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง แบบเป็นๆ หายๆ นานเป็นเดือนหรือเป็นปี “อาการของโรคกระเพาะอาหาร” ทั้งฉับพลันและเรื้อรังนี้ อาการที่เห็นได้ชัดคือปวดแสบท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ ท้องอืด แน่นท้องทั้งที่ไม่ได้กินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน เนื่องจากการอักเสบของเยื่อเมือกบุในกระเพาะ ดังนั้นการกินอาหารรสจัดหรือเผ็ด จึงยิ่งสร้างกรดที่กัดเยื่อบุกระเพาะทำให้ปวดแสบท้องทันทีที่ทานอาหารเผ็ดนั่นเอง
หลายๆ คนต้องเคยเจอ “โรคลำไส้อักเสบ”กันมาบ้าง และจะรู้ว่ามันปวดท้องทรมานขนาดไหน ส่วนมากโรค “ลำไส้อักเสบฉับพลัน” จะเกิดจากการกินอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน ติดเชื้อไวรัส และมีอาการท้องเสีย ท้องร่วง ร่วมกับปวดท้องรุนแรง และรักษาหายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แต่หากเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือที่เรียกว่า Ulcerative Colitis คือการที่ผนังลำไส้ใหญ่มีการอักเสบและเป็นแผล เกิดการอักเสบเรื้อรังนานเป็นปีๆ ทำให้มีอาการท้องเสียและปวดท้องเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะเมื่อทานอาหารที่ไปกระตุ้นให้ผนังลำไส้อักเสบรุนแรงก็จะเกิดอาการกำเริบขึ้นมา การรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังจึงต้องพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาให้เยื่อบุลำไส้ที่เป้นแผลกลับคืนสู่สภาพปกติ และแน่นอนว่าต้องควบคุมการทานอาหารที่เหมาะสมและไม่ควรทานอาหารเผ็ดที่จะยิ่งทำร้ายเยื่อบุลำไส้ เพราะการเป็นลำไส้อักเสบเรื้อรังสามารถพัฒนาไปสู่ “โรคมะเร็งลำไส้” ได้หากปล่อยไว้
โรคฮิตของคนทำงานยุคนี้เลย เนื่องจากพฤติกรรมการใชชีวิตและการทานอาหารไม่ตรงเวลา โดยเฉพาะคนที่ชอบกินดึกๆ และเข้านอนทันที กรดไหลย้อนคือภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ทำให้มี อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก และลิ้นปี่ เกิดได้ทั้งจากมีกรดเกินในกระเพาะอาหารจนไหลย้อนขึ้นมา และหูรูดของหลอดอาหารส่วนปลายทำงานผิดปกติ ดังนั้นผู้ที่เป้นกรดไหลย้อนจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารทุกชนิดที่ทำให้เกิดกรด ทั้งอาหารรสเผ็ด รสเปรี้ยว ไปจนถึงอาหารที่มีแก๊สมาก เพราะจะยิ่งทำให้เกิดกรดและไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหารเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน และหากมีอาการกรดไหลย้อนเรื้อรังอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดหูรูดหลอดอาหาร เพื่อป้องกันการพัฒนาของโรคไปเป็น “มะเร็งหลอดอาหาร” ในอนาคต
หากคุณกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองหรือคนที่คุณรัก? วางแผนล่วงหน้าด้วยแผนประกันสุขภาพ คุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างครอบคลุม ทั้งค่ารักษาพยาบาล (กรณีป่วยแอดมิทเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล) ค่าห้อง ค่าบริการทางการแพทย์และค่ายา การมีประกันสุขภาพสามารถช่วยให้การจัดการกับผลข้างเคียงราบรื่นและมีประสิทธิภาพ แล้วคุณจะได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและสบายใจทุกวัน
หากสนใจศึกษาข้อมูลการวางแผนทำประกันสุขภาพ แผน Exclusive Care @ BDMS สามารถโทรปรึกษาฟรีได้ทันที 02-822-1155 หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Allianz Ayudhya
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
กุมารเเพทย์ ศูนย์กุมารเวช
อาคาร 3 ชั้น 2 โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 3320-3221
Line id : @Paolochokchai4