พญ.จงจิต อินทเวคิน

อายุรแพทย์

วุฒิบัตร

อายุรแพทย์
วัน เวลา
พุธ 07:00 - 10:00
ศุกร์ 07:00 - 10:00
อาทิตย์ 08:00 - 10:00
การศึกษา
● แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
● วุฒิบัตรอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

พญ.จงจิต อินทเวคิน สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จากนั้นได้ศึกษาต่อวุฒิบัตรอายุรศาสตร์ ที่สถาบันเดิม ซึ่งคุณหมอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจและประสบการณ์ในการศึกษา รวมถึงการทำงานว่า…
          “ในสมัยที่หมอเรียนจบใหมๆ หมอส่วนใหญ่ก็เรียนต่อด้านอายุรแพทย์ทั่วไปกัน ซึ่งการเรียนต่อยอดเฉพาะทางสาขาอื่นๆ เพิ่งจะมามีในภายหลังมากขึ้นเรื่อยๆ หมอเองตอนเรียนจบอายุรแพทย์แล้วก็ยังไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด แต่หลังจากใช้ทุนเสร็จก็ได้กลับมาทำงานที่โรงพยาบาลเดิม
          เมื่อก่อนคอนเซ็ปต์ของหมอส่วนใหญ่ คือต้องดูแลคนไข้และรักษาได้ทุกโรค แต่จะเป็นการดูแลเบื้องต้นแบบกว้างๆ ไม่ได้เจาะลึก การที่หมอศึกษาต่อยอดด้านอายุรแพทย์ก็เพื่อให้สามารถเข้าใจและรักษาโรคได้หลายด้านมากขึ้น และโดยส่วนตัวหมอเป็นคนชอบอธิบาย ชอบให้ความรู้ ให้คำแนะนำเพื่อให้คนไข้มีความเข้าใจในตัวโรคจริงๆ สามารถนำไปป้องกันและดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ยิ่งถ้าคนไข้สามารถวิเคราะห์และสังเกตอาการของตัวเองได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะเป็นผลดีต่อการรักษา
          จะว่าไปอายุรแพทย์ก็เปรียบเสมือนหน้าด่านในการดูแลคนไข้ ถ้าเราสามารถวินิจฉัยโรคได้แม่นยำก็จะส่งผลดีต่อคนไข้ที่จะได้รับการรักษาอย่างตรงจุดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหมอเป็นอายุรแพทย์มากนานกว่า 30 ปีแล้ว ทำการรักษาคนไข้มาก็เยอะมาก ปัจจุบันหมอจึงเน้นที่การดูแลกลุ่มคนไข้โรคเรื้อรังที่หมอเชี่ยวชาญ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต ไขมันในเลือด กลุ่มโรคประจำตัวที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต และส่วนใหญ่ก็เป็นคนไข้ประจำที่มาหาหมอต่อเนื่องมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายจนมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ก็นับว่ามีความผูกพัน รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดีกับคนไข้และครอบครัวคนไข้จำนวนมาก”

ตรวจ วินิจฉัย รักษา พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ
คุณหมอจงจิต จะทำการตรวจคนไข้ด้วยขั้นตอนที่เป็นมาตรฐาน มีการซักถามคนไข้ว่ามาด้วยปัญหาอะไร รวมถึงซักประวัติอาการต่างๆ จากนั้นจะทำการตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อค้นหาสาเหตุของโรค จึงจะสรุปผลการวินิจฉัย และวางแนวทางในการรักษา…
          “การตรวจคนไข้ด้านอายุรกรรม นอกจากการตรวจที่ต้องได้มาตรฐานและให้เวลากับคนไข้แล้ว หมอจะพิจารณาว่าในแต่ละเคสมีความจำเป็นจะต้องทำการตรวจเพิ่มเติมอะไรอีกหรือเปล่า ควรส่งต่อไปยังแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านไหนโดยเฉพาะเพื่อให้ตรงกับอาการของคนไข้หรือไม่ ในกรณีที่คนไข้ไม่มีอาการโรคใดๆ แต่มาตรวจสุขภาพทั่วไป ก็ต้องไม่ละเลยในการค้นหาโรคเสี่ยงจากข้อมูลที่มี เพราะหากพบแต่เนิ่นๆ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อคนไข้ ทำให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วหรือป้องกันการลุกลามได้ทัน”
          คุณหมอจงจิต จะเน้นการอธิบายให้ความรู้ด้วยภาษาที่ง่ายๆ หากคนไข้ยังไม่เข้าใจในครั้งที่หนึ่ง ก็จะอธิบายเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่นๆ อีกหลายๆ ครั้งด้วยความใจเย็นและมีความเข้าใจว่าคนไข้แต่ละคนก็มีพื้นฐานความรู้ด้านสุขภาพไม่เท่ากัน คุณหมอจะแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาด้วยเจตนารมย์ที่ต้องการช่วยเหลือ และอยากให้คนไข้มีสุขภาพดี ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้ก็จะไว้วางใจและปฏิบัติตามคำแนะนำได้ดี

พัฒนาการและบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีทางการแพทย์
หลายปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลเปาโล เกษตร ได้นำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยต่างๆ เข้ามาใช้เพื่อการตรวจ วินิจฉัย และการรักษามากขึ้น ซึ่งคุณหมอจงจิต บอกไว้ว่า…
          “ปัจจุบัน เราใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์มาช่วยในการค้นหารอยโรคมากยิ่งขึ้น เครื่องนี้ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี คือช่วยให้มองเห็นภาพได้ละเอียดชัดเจนจนน่าทึ่ง ในอดีตเวลาจะสืบค้นหรือทำประวัติคนไข้ยังใช้วิธีจดลงโอพีดีการ์ด จดบันทึกลงกระดาษ จัดใส่ในแฟ้มแล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เอกสาร พอคนไข้มาหาก็นำเอกสารมาเปิดดู แต่ปัจจุบันทุกอย่างจะถูกเก็บในระบบคอมพิวเตอร์ เวชระเบียนก็มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย จัดไว้ให้สืบค้นได้ง่ายและรวดเร็ว ในขณะที่หมอตรวจคนไข้ก็สามารถเรียกดูข้อมูลได้ทันที ในด้านการตรวจแล็บ ผลตรวจก็รวดเร็วฉับไวทำให้คนไข้ไม่ต้องรอนาน เมื่อหมอได้ผลตรวจเร็วก็สามารถวินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้น การรักษาก็เริ่มต้นได้ทันที”

อายุรแพทย์ที่เป็นเสมือนแพทย์ประจำครอบครัว
ด้วยเป็นอายุรแพทย์ คุณหมอจงจิต จึงมักได้ดูแลรักษาคนไข้ที่เป็นในลักษณะครอบครัว โดยบางครอบครัวก็ได้ดูแลมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า ต่อมาก็รุ่นคุณพ่อคุณแม่ และดูแลมาจนถึงรุ่นลูกตามเจนเนอเรชั่น
          “มีคนไข้เยอะเลยที่ให้หมอเป็นเหมือนแพทย์ประจำครอบครัว และตัวหมอเองก็มีความสุขที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยความผูกพันคุ้นเคยกับคนไข้มานาน หมอจึงรู้สึกว่าทุกคนคือคนในครอบครัว มีอะไรก็อยากจะปรึกษาและช่วยเหลือกัน ทุกครั้งที่ได้รักษาจนคนไข้จนหายจากอาการป่วย หรือหายจากความทุกข์ทรมานของโรค หมอก็มีรอยยิ้มและเกิดความสุขภายในใจเสมอ”

การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อการป้องกันโรคและมีอนามัยที่ดี

ร่างกายของคนเราย่อมเสื่อมไปตามอายุ บางทีไม่ต้องรอให้แก่ก็ควรตรวจเช็กสุขภาพเพื่อการป้องกันและลดเสี่ยงโรคร้ายต่างๆ คุณหมอบอกว่า…
          “คนเรามีสองส่วนสำคัญที่ต้องดูแล คือร่างกายและจิตใจ ดังนั้นเราต้องดูแลทั้งสองด้าน สำหรับร่างกายเราควรเช็กว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้าง เมื่อเรามีความเสี่ยงก็ต้องป้องกันความเสี่ยงนั้นๆ แต่ถ้าเป็นโรคอะไรแล้วก็ต้องรักษาและติดตามผลให้ดี นอกจากนั้นก็ต้องดูแลตนเอง ทั้งเรื่องการกินอาหาร การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายตามสมควร ในด้านจิตใจก็ต้องสร้างทัศนคติให้มองบวก ทำจิตใจให้สดใสผ่องแผ้ว เพราะจิตใจมีผลต่อระบบการทำงานของร่างกายโดยรวม อย่างผลต่อความดันโลหิต ผลต่อโรคในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเกี่ยวพันกับระบบประสาทของคนเรา ดังนั้นเราก็ต้องดูแลทั้งสองด้าน คือกายและใจให้สมดุลกัน”