นพ.ปกป้อง วงษ์วิจารณ์

ศัลยแพทย์ทั่วไป

วุฒิบัตร

ศัลยแพทย์ทั่วไป
วัน เวลา
จันทร์ 08:30 - 17:30
อังคาร 08:30 - 17:30
พุธ 08:30 - 17:30
พฤหัสบดี 08:30 - 20:00
ศุกร์ 08:30 - 17:30

การศึกษา
แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์
วุฒิบัตรศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์

นพ.ปกป้อง วงษ์วิจารณ์ สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ภายหลังจากเป็นแพทย์ใช้ทุนเรียบร้อยแล้วจึงเข้าศึกษาต่อวุฒิบัตรศัลยศาสตร์ ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เช่นเดียวกัน คุณหมอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจและประสบการณ์ในการศึกษาว่า…
“ตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ หมอมองว่าศัลยกรรม เป็นศาสตร์ที่ใช้ความรวดเร็วในการรักษา มีเหตุและผลที่ชัดเจนตรงไปตรงมา เพราะเป็นการรักษาด้วยการผ่าตัดทั้งโรคและอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งสามารถรักษาได้ทันท่วงทีหากคนไข้มีร่างกายที่พร้อม ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้หมอรู้สึกประทับใจและอยากจะเรียนต่อในสาขานี้ และจากประสบการณ์การได้รักษาคนไข้ที่ประสบอุบัติเหตุมาจนทำให้ตับฉีก เสียเลือดปริมาณมาก เมื่อได้รับการผ่าตัดคนไข้ก็หายดีได้รู้สึกประทับใจมาก แม้ศาสตร์แขนงนี้จะต้องเจอกับเลือดและสิ่งสกปรกต่างๆ เช่นหนอง หรือของเสีย ต้องใช้เครื่องมือต่างๆ ใช้ทั้งความตั้งใจและความอดทน รวมถึงความเชี่ยวชาญที่ต้องฝึกฝน แต่หมอก็ชอบ รู้สึกดีและเป็นเกียรติที่ได้รักษาคนไข้ให้หายดีอย่างรวดเร็ว

 ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งการผ่าตัดเคสอุบัติเหตุและโรคต่างๆ
คนไข้ของคุณหมอปกป้อง แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ คนไข้อุบัติเหตุและคนไข้โรคต่างๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด…

“จากประสบการณ์การผ่าตัดของหมอในหลายปีที่ผ่านมา หมอจะดูแลคนไข้ทั้งการผ่าตัดในเคสอุบัติเหตุซึ่งจะเป็นคนไข้ในทุกกลุ่มอายุ และการผ่าตัดโรคต่างๆ ด้วยการส่องกล้อง เช่น โรคถุงน้ำดีอักเสบ โรคตับ ไส้ติ่งอักเสบ ไส้เลื่อนอุดตัน รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวกับเส้นเลือดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้จะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ คืออายุประมาณ 20 ขึ้นไป” 


สื่อสารกับคนไข้เพื่อการเข้าถึงความต้องการที่แท้จริง
ด้วยการผ่าตัดเป็นสิ่งที่คนไข้ส่วนใหญ่มักมีความกังวลถึงความเจ็บปวดและความปลอดภัย ดังนั้น คุณหมอปกป้อง จึงเน้นในการเอาใส่ใจในทุกความรู้สึกของคนไข้แต่ละรายอย่างถ่องแท้ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจ การวินิจฉัย การอธิบาย และการวางแผนการรักษา…
          “ในการผ่าตัดรักษาโรค เราต้องคุยกับคนไข้ สื่อสารให้เข้าใจตรงกันว่าคนไข้ต้องการอะไร อยากให้การผ่าตัดเป็นไปในลักษณะไหน มีความกังวลใจในส่วนใดบ้าง คือต้องใส่ใจในรายละเอียด ยกตัวอย่างคนไข้บางคนก็ไม่อยากให้เกิดแผลเป็น บางคนก็ไม่อยากเจ็บมาก บางคนไม่ต้องการนอนโรงพยาบาลนานเพราะมีภารกิจมากมาย หมอก็จะอธิบายถึงข้อดีข้อเสียและข้อจำกัดในการผ่าตัดแต่ละประเภทในโรคที่คนไข้เป็นอยู่
หมอขอยกตัวอย่างเคสหนึ่งที่ค่อนข้างประทับใจ คือคนไข้คนนี้มีอาชีพเป็นนางแบบและมารักษาโรคไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมไม่อยากมีแผลเป็นจากการผ่าตัดเพราะจะเป็นอุปสรรคกับอาชีพ คนไข้มีความกังวลเรื่องความสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งทางโรงพยาบาลของเรามีบริการผ่าตัดโดยวิธีส่องกล้อง การผ่าตัดก็เจ็บน้อย ผลข้างเคียงก็น้อย จึงตอบโจทย์คนไข้และการผ่าตัดได้อย่างลงตัว เมื่อทำความเข้าใจกันดีแล้ว หมอจึงทำการผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้องแบบไร้รอยแผล ซึ่งคนไข้พึงพอใจมาก
อีกเคสหนึ่งเป็นว่าที่เจ้าสาว ซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัดบริเวณช่องท้อง แต่ไม่ต้องการมีรอยแผลเป็น การผ่าตัดแบบส่องกล้องก็ตอบโจทย์ ทำให้คนไข้พึงพอใจและประทับใจในการรักษา
ในกรณีที่เป็นคนไข้เคสอุบัติเหตุ หากเขาสื่อสารไม่ได้เพราะหมดสติ หรือเป็นเรื่องฉุกเฉิน เราก็ต้องอาศัยประสบการณ์ว่าควรรักษาตรงจุดไหนอย่างไรเพื่อให้คนไข้ปลอดภัยและพึงพอใจมากที่สุด เมื่อผ่านการผ่าตัดไปแล้ว หมอก็อยากให้คนไข้รู้สึกว่าเขาโชคดีที่ได้มาเจอหมอ ได้มารักษากับเรา”
          นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดของคุณหมอปกป้องแล้ว ปัจจุบันวงการแพทย์ก็มีการพัฒนาในเรื่องยาที่ดีขึ้นมาก ทำให้การรักษาเกื้อหนุนกันอย่างมีประสิทธิภาพ คือตอบสนองต่อโรคและการผ่าตัดได้ค่อนข้างดี มีหลายกลุ่มยาให้เลือกใช้ที่ครอบคลุมโรคต่างๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้การตรวจวินิจฉัยโรคในปัจจุบัน ทางโรงพยาบาลเปาโล รังสิต ก็มีเครื่องมือและนำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาช่วย ทำให้การตรวจมีความแม่นยำสูงและได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก
 
ไม่อยากผ่าตัดอย่าลืมดูแลสุขภาพ

มีโรคมากมายที่เป็นแล้วต้องลงเอยด้วยการผ่าตัด คุณหมอปกป้อง จึงมักย้ำเสมอว่า การดูแลตนเองและการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแม้ตรวจแล้วไม่พบว่าเป็นโรคอะไร ก็ยังได้รู้ว่าสุขภาพของเรานั้นอยู่ในระดับไหน มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง คุณหมอแนะนำว่า หากเป็นเพศหญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจอัลตร้าซาวด์เต้านมด้วย ส่วนผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไปก็ควรตรวจทั้งอัลตร้าซาวด์เต้านมและตรวจแมมโมแกรมร่วมด้วยเสมอ บริเวณช่องท้องก็ควรทำอัลตร้าซาวด์อย่างน้อยปีละครั้ง ด้านสุขภาพทั่วไปก็ควรรักษาความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทานอาหารที่มีประโยชน์ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ…
“สำหรับบุคคลทั่วไปที่อายุยังไม่มาก ควรเข้ารับการตรวจด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งทางโรงพยาบาลจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำว่าควรเลือกตรวจประเภทใดบ้าง ส่วนผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรหาโอกาสตรวจบริเวณช่องท้อง ตรวจลำไส้ หรือระบบทางเดินอาหาร เพราะวัยนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ ทางโรงพยาบาลเปาโล รังสิต ก็มีบริการตรวจโดยใช้วิธีการส่องกล้องเพื่อเช็กลำไส้ว่ายังโอเคอยู่หรือไม่ หากตรวจแล้วยังไม่เจออะไรก็จะมีความสบายใจได้ถึงห้าปีเลย
          ปัจจุบันการตรวจด้วยการส่องกล้องไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัว ทำง่าย หลังส่องกล้องเสร็จก็กลับบ้านได้เลย หากท่านใดสนใจแต่ไม่รู้ว่าจะตรวจอะไรบ้างดี ก็สามารถโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์กลางโรงพยาบาล หรือติดต่อทาง LINE OFFICIAL ก็จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ”