“ศัลยแพทย์จะอธิบายโรคด้วยสิ่งที่เห็น ไม่ใช่การคาดเดา ทุกอย่างในการรักษาขึ้นอยู่กับการควบคุมด้วยมือของเรา หมอศัลย์ฯ ที่ดีจึงต้องมี Eagle’s eye, lady’s hand และ lion’s heart คือมีสายตาเฉียบแหลม มือที่นุ่มนวล และจิตใจแข็งแกร่ง เพื่อการตัดสินใจที่เด็ดขาด เพราะหลาย ๆ ครั้งที่การผ่าตัดสำหรับคนไข้แต่ละราย เราทำได้แค่ครั้งเดียว อาจารย์ศัลยแพทย์ที่เคารพท่านหนึ่งเคยสอนว่าศัลยแพทย์ที่ดี ฝีมือคืออาภรณ์ หรือสิ่งที่เราสวมใส่ มันต้องมีติดตัวเรา จึงต้องหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ”

หลังจาก นพ.ศิขริน ศรพิพัฒน์พงศ์ สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว คุณหมอได้ทำงานชดใช้ทุนโดยเป็นแพทย์พี่เลี้ยงในสาขาศัลยกรรมที่โรงพยาบาลขอนแก่น และกลับมาศึกษาเพื่อเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยศาสตร์ ที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้เริ่มปฏิบัติงานเป็นศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลสิรินธร สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร อยู่ 3 ปี ต่อมาจึงได้ศึกษาต่อวุฒิบัตรเฉพาะทางศัลยศาสตร์การผ่าตัดผ่านกล้องขั้นสูง และศัลยศาสตร์การผ่าตัดบำบัดรักษาโรคอ้วน เพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ขึ้นอีก

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดส่องกล้อง

คุณหมอศิขริน เป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดผ่านกล้อง คนไข้ที่คุณหมอดูแลเป็นหลัก และทำการผ่าตัดอยู่เป็นประจำ จะเป็นคนไข้โรคนิ่วในถุงน้ำดี ไส้เลื่อน และไส้ติ่งอักเสบในกรณีฉุกเฉิน กับอีกการผ่าตัดหนึ่งที่คุณหมอได้ศึกษาเพิ่มเติมมาโดยตรง คือการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคอ้วน คุณหมอบอกว่า...

“เราจะเห็นจุดที่ต้องการผ่าตัดอย่างชัดเจนจากการผ่าตัดผ่านกล้อง ความบอบช้ำที่จะไปกระทบส่วนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะมีน้อย และไม่เสี่ยงโดนอวัยวะ หรือจุดสำคัญ นอกจากนี้ คนไข้ยังเสียเลือดน้อยกว่า เมื่อการบอบช้ำน้อย แผลเล็ก คนไข้ก็จะฟื้นตัวเร็ว จำนวนวันในการนอนโรงพยาบาลก็น้อยลง กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ข้อดีอีกอย่าง คือความสวยงามของแผลที่มีขนาดเล็ก ทำให้คนไข้รู้สึกดีกว่า สำหรับการผ่าตัดเพื่อรักษาคนไข้โรคอ้วน จะช่วยส่งผลดีในการรักษาภาวะ และโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือภาวะนอนกรน มีการหยุดหายใจขณะหลับ รวมไปถึงโรคข้อเข่าเสื่อม การผ่าตัดจึงเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรคอ้วน โดยมุ่งหวังให้โรคที่เป็นอยู่ดีขึ้น กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ”

เจ็บน้อย หรือไม่เจ็บเลย คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการผ่าตัด

ก่อนตัดสินใจทำการผ่าตัด คุณหมอศิขริน จะอธิบายให้คนไข้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับตัวโรค และทางเลือกในการรักษา ซึ่งคุณหมอจะให้เวลาในการพูดคุย การตอบข้อสงสัยกับคนไข้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้คนไข้มีความกังวล หรือคับข้องใจก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการรักษา เพราะเมื่อคนไข้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง กระบวนการรักษาก็จะออกมาดี และมีประสิทธิภาพ

สิ่งหนึ่งที่คนไข้มักกังวล นอกเหนือจากผลของการผ่าตัดรักษา คือกลัวการเจ็บแผลผ่าตัด ซึ่งหากเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องแล้ว คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่าด้วยการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล ความพร้อมของเครื่องมือที่ครบครัน ห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้การผ่าตัดออกมาได้ผลดี และมีความเจ็บปวดน้อยที่สุด...

“จากประสบการณ์ทำการผ่าตัดมากว่าสิบปี หมอจะคิดเสมอว่าคนไข้มีโอกาสเข้ารับการผ่าตัดได้ครั้งเดียว หมอผ่าถุงน้ำดี ผ่าไส้เลื่อน ผ่าไส้ติ่ง ด้วยวิธีผ่าตัดผ่านกล้องในแต่ละครั้งจึงต้องทำให้สุดฝีมือ และใส่ใจอย่างเต็มที่ทุกครั้ง ผลตอบรับของคนไข้ส่วนใหญ่บอกว่าไม่เจ็บแผลเลย ซึ่งนี่คือหนึ่งในความสำเร็จของการทำงานสำหรับหมอ นอกจากคนไข้หายจากโรคที่เป็นอยู่ สิ่งที่ทำให้หมอยิ้มได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเล็กหรือใหญ่หลังการผ่าตัด ถ้าคนไข้สามารถยิ้มได้ นี่คือกำลังใจที่มีค่าที่สุดสำหรับหมอ”