สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการป้องกัน ด้วยการฉีดวัคซีน
โรงพยาบาลเปาโลเกษตร
04-ก.ย.-2567

สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการป้องกัน
ด้วยการฉีดวัคซีน


ในยุคที่โรคติดเชื้อและไวรัสต่าง ๆ กลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของมนุษย์ การป้องกันโรคด้วยวัคซีนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย วัคซีนที่สำคัญมีหลากหลายชนิด โดยแต่ละชนิดมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของเรา วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวัคซีน 6 ชนิดที่ควรรู้จักและพิจารณาในการป้องกันโรค

1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคที่แพร่กระจายได้ง่ายโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรงของอาการหากติดเชื้อได้
คำแนะนำในการฉีด
กลุ่มเป้าหมาย : ผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป

ปัจจุบันมีวัคซีนเข้มข้นสูง สำหรับผู้ที่อายุ มากกว่า 65 ปี โดยเฉพาะ
การฉีด : ควรฉีดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากสายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่มักจะเปลี่ยนแปลง วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะอัปเดตตามฤดูกาล
จำนวนครั้ง : 1 เข็มต่อปี

สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ที่ฉีดวัคซีนเป็นครั้งแรก ควรฉีด 2 เข็มห่างกัน 1 เดือนในปีแรก

2. วัคซีนไข้เลือดออก

ไข้เลือดออก (Dengue Fever) เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสเดงกี (Dengue virus) ซึ่งแพร่กระจายผ่านยุงลาย วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกสามารถลดความรุนแรงของโรคและลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
คำแนะนำในการฉีด  
● เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 4 - 60 ปี สามารถฉีดได้ทั้งในคนที่เคยและไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออก โดยไม่ต้องทำการตรวจเลือดก่อนการฉีดวัคซีน  (ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน คือเดือน 0 และ 3)
● ไม่สามารถฉีดได้ในสตรีมีครรภ์ หรือหากมีโรคประจำตัวที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องให้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน
● ในกรณีที่เป็นไข้เลือดออกมาแล้วจะสามารถเข้ารับวัคซีนได้หลังจากที่หายป่วยแล้ว 6 เดือน

3. วัคซีนงูสวัด

งูสวัด (Herpes Zoster) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella-Zoster Virus) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส วัคซีนงูสวัดเป็นวัคซีนที่สำคัญสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ การฉีดวัคซีนนี้สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดงูสวัดและลดความรุนแรงของอาการ
คำแนะนำในการฉีด
● กลุ่มผู้ใหญ่ อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ฉีดจำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 2 – 6 เดือน
● กลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ฉีดจำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 1 – 2 เดือน


4. วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับและสามารถนำไปสู่การเกิดตับแข็งหรือตับอักเสบเรื้อรัง วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ โดยทั่วไปจะฉีดวัคซีนนี้ในเด็กแรกเกิด แต่ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนควรพิจารณารับวัคซีนเช่นกัน
คำแนะนำในการฉีด
กลุ่มเป้าหมาย : เด็กแรกเกิด ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน ผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้มีโรคเรื้อรัง
การฉีด : ฉีด 3 เข็ม ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 1 – 2 เดือน ครั้งที่ 3 ห่างจากครั้งแรก 6 เดือน

5. วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ + บี

วัคซีนนี้เป็นวัคซีนรวมที่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) และไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) ได้พร้อมกัน ไวรัสตับอักเสบเอเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสผ่านทางอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อน วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ+บี เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันโรคทั้งสองพร้อมกัน
คำแนะนำในการฉีด  
กลุ่มเป้าหมาย : ผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอและบี เช่น นักท่องเที่ยว ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดการฉีด : ฉีด 3 เข็ม ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 1 – 2 เดือน ครั้งที่ 3 ห่างจากครั้งแรก 6 เดือน


6. วัคซีนอีสุกอีใส

อีสุกอีใส (Chickenpox) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน วัคซีนอีสุกอีใสเป็นวิธีป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและลดความรุนแรงของอาการหากติดเชื้อ วัคซีนนี้แนะนำให้ฉีดในเด็กและผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยติดเชื้อหรือไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
คำแนะนำในการฉีด ฉีด 2 เข็ม  ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 1 เดือน



การป้องกันโรคด้วยวัคซีนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องสุขภาพและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง วัคซีนที่กล่าวถึงในบทความนี้สามารถช่วยป้องกันโรคที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพได้อย่างมาก การรับวัคซีนอย่างเหมาะสมและตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา เพื่อให้คุณและครอบครัวของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัย

พญ.สุชญา ชมรัตนสุวรรณ




สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์ตรวจสุขภาพ  โรงพยาบาลเปาโล เกษตร 
โทร. 02 1500 900 ต่อ 5129
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
Line official account : Paolo Hospital Kaset
Line ID : @paolokaset