ในช่วงการตั้งครรภ์ว่าที่คุณแม่มักจะเจอคำถามเรื่องอายุครรภ์กันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอายุครรภ์เท่าไหร่แล้ว ท้องกี่เดือน ใกล้คลอดหรือยัง? เรียกได้ว่าเป็นคำถามยอดฮิตที่ใครเจอแล้วต้องถาม แต่เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าอายุครรภ์เท่าไหร่ จะนับอย่างไรดี? ไม่ต้องกังวลไป เรามีวิธีนับอายุครรภ์มาบอก
การนับอายุครรภ์
สำหรับการตั้งครรภ์แล้ว อายุครรภ์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ว่าที่คุณแม่ต้องใส่ใจ เพราะการทราบอายุครรภ์สามารถบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของเด็กทารกในครรภ์ และช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัย วางแผนกาตรวจครรภ์ และแจ้งกำหนดวันคลอดคร่าวๆ ได้ อีกทั้งยังทำให้ทราบด้วยว่าคุณแม่ท้องมีภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ด้วยหรือไม่ หากมีก็จะได้ดูแลรักษาได้อย่างถูกต้องไปตลอดการตั้งครรภ์
จำวันแรกของประจำเดือนครั้งล่าสุด...ก็นับอายุครรภ์ได้
วิธีการนับอายุครรภ์นั้นก็ไม่ยาก ว่าที่คุณแม่และสามารถทำได้เอง เพียงแค่ต้องจำวันแรกของประจำเดือนครั้งล่าสุดได้ จึงจะสามารถนับได้ด้วยตัวเอง เพราะการนับอายุครรภ์จะต้องเริ่มนับตั้งแต่วันแรกของแรกประจำเดือนครั้งล่าสุด และมีหน่วยการนับเป็นวันและสัปดาห์ แต่ที่เราเห็นมีการบอกอายุครรภ์เป็นเดือนนั้นก็มาจากการนับสัปดาห์แล้วคำนวณเป็นเดือนนั่นเอง
นับอายุครรภ์อย่างไร?
โดยปกติแล้วอายุการตั้งครรภ์จนถึงวันคลอดจะอยู่ที่ 40 สัปดาห์ หรือประมาณ 280 วัน ซึ่งจะเริ่มนับจากวันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย (ไม่ใช่เริ่มนับจากวันสุดท้ายของการมีประจำเดือน) หรือนับจากวันที่ประจำเดือนถึงกำหนดจะมาแต่ไม่มา เช่น ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดวันที่ 1 มีนาคม และประจำเดือนหมดวันที่ 5 มีนาคม และกำหนดที่ประจำเดือนครั้งต่อไปควรจะมาอีกครั้งคือวันที่ 28 - 29 มีนาคม ดังนั้นประจำเดือนครั้งสุดท้ายที่มาคือวันที่ 1 มีนาคม
คำนวณวันคลอดได้ง่ายๆ
- นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย แล้วบวกไปอีก 9 เดือน และนับบวกต่อไปอีก 7 วัน
เช่น วันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายคือวันที่ 1 มกราคม ก็ให้บวกไปอีก 9 เดือน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม จากนั้นนับบวกต่อไปอีก 7 วัน ก็จะได้กำหนดคลอดตรงกับวันที่ 8 ตุลาคม
- นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายย้อนหลังไป 3 เดือน และนับบวกต่อไปอีก 7 วัน
เช่น วันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายของแม่ท้องคือวันที่ 1 มีนาคม ก็ให้นับย้อนหลังไปอีก 3 เดือน คือ กุมภาพันธ์ มกราคม และธันวาคม และนับบวกไปอีก 7 วัน กำหนดวันคลอดก็ จะตรงกับวันที่ 8 ธันวาคม เหมือนกับวิธีแรกนั่นเอง