เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด...สัญญาณเตือนจากโรคทางนรีเวช
โดยทั่วไป เมื่อผู้หญิงเข้าสู่... วัยมีประจำเดือน เมื่อถึงรอบเดือนนั้นๆ การมีเลือดออกจากช่องคลอดก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ แต่อย่างไรก็ตาม! หากเลือดที่ออกมานั้นมีมากผิดปกติ หรือกรณีมีเลือดออกทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงช่วงวันของรอบเดือนที่จะมาถึง นั่นอาจเป็นอาการของ “ภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด” ซึ่งควรได้รับการตรวจรักษา
แบบไหนที่เรียกว่า “เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ”
โดยปกติแล้ว ประจำเดือนจะเป็นเลือดที่ออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิงทุกเดือน ซึ่งประกอบไปด้วยเลือดกับเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกชิ้นเล็กๆ ปะปนออกมา โดยจะมีระยะเวลาในการเป็นประจำเดือนประมาณ 3-8 วัน และระยะห่าง 24-35 วันสม่ำเสมอ หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น
นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้
เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ...เกิดขึ้นได้อย่างไร?
การมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
หากสงสัยว่ามีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ควรทำอย่างไร?
รักษาอย่างไร...ให้หายจากภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด?
เนื่องจากในผู้ป่วยแต่ละคนจะมีสาเหตุของอาการเลือดออกที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการรักษาอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด จะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่พบ ดังนี้
ทั้งนี้ ในรายที่มีเลือดออกมาก อาจต้องเข้ารับการขูดมดลูก เพื่อควบคุมเลือดออกมากเกินไป และตรวจหาความผิดปกติของเยื่อบุมดลูกเพิ่มเติม โดยแพทย์จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาถึงวิธีการที่เหมาะสมในการรักษาอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด รวมถึงให้คำแนะนำในการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดซ้ำอีก
หากคุณผู้หญิงมีภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด หรือสงสัยว่าตนเองอาจเป็นภาวะนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และเข้ารับการรักษา เพราะนอกจากอาการเสียเลือดมากอาจทำให้วิงเวียนศีรษะ หรืออ่อนเพลียจากภาวะโลหิตจาง ยังอาจมีรอยโรคที่เราคิดไม่ถึงซ่อนอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม การตรวจภายในเป็นประจำทุกปี จะเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันโรคทางนรีเวชในผู้หญิงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังตรวจหาโรคที่อาจเกิดขึ้นแต่ยังไม่แสดงอาการ และทำการรักษาได้อย่างทันท่วงทีได้อีกด้วย
บทความโดย
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพสตรี
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร. 02-363-2000 ต่อ 2201-2202
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆได้ที่