“การทำศัลยกรรม” ในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นในทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ และความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ที่มีการพัฒนาการมากขึ้น ส่งผลให้การทำศัลยกรรมมีความงดงาม และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นอกจากความพร้อมทางการแพทย์แล้ว ผู้เข้ารับบริการจะต้องให้ความสำคัญในการ “ตรวจสุขภาพก่อนทำศัลยกรรม” ร่วมด้วย เพื่อวางแผนการทำ “ศัลยกรรม” ให้มีความเหมาะสมเฉพาะรายบุคคล
ตรวจสุขภาพก่อนทำศัลยกรรม ดีอย่างไร ?
สำหรับใครที่กำลังมีแพลนที่จะทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะศัลยกรรมเพื่อความสวยงาม หรือศัลยกรรมเพื่อการรักษา การตรวจสุขภาพก่อนทำศัลยกรรมเลยเลยเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากในแต่ละบุคคลอาจมีปัจจัยเสี่ยงที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะ อายุ โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา และโรคติดต่อ- ช่วยให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยและเตรียมความพร้อมในการทำศัลยกรรมได้อย่างเหมาะสม
- ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
- หลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการศัลยกรรม
- ลดความกังวลก่อนทำศัลยกรรม
ตรวจสุขภาพก่อนทำศัลยกรรม มีอะไรบ้าง
1. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC เป็นการตรวจปริมาณ และลักษณะของเม็ดเลือดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ เมล็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด เพื่อตรวจหาปัจจัยเสี่ยงหรือสภาวะบางอย่างที่ผิดปกติในร่างกาย เช่น ภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อต่างๆ และโรคมะเร็งเมล็ดเลือดขาว
2. ตรวจหาไวรัสตับอักเสบบี HBsAg เป็นการตรวจเลือด เพื่อหาสารโปรตีนจากเปลือกของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โดยจะมีทั้งแบบธรรมดา และแบบเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยที่ตรวจแล้วมีผลเป็นบวก หรือ Positive ก็แสดงว่าผู้ป่วยกำลังมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ภายในร่างกาย
3. ตรวจหาการทำงานของไต เป็นการตรวจสมรรถภาพการทำงานของไตในการคัดแยกของเสียออกจากกระแสเลือด และโอกาสการเกิดความผิดปกติหรือความบกพร่องที่ไต เช่น โรคไต การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ- ตรวจหาการทำงานของไต (BUN) เป็นการเจาะเลือดตรวจค่าไต เพื่อประเมินคุณภาพเลือด โดยนำไปวัดค่าไนโตรเจนจากส่วนประกอบของยูเรียว่ามีปริมาณรั่วออกมาในกระแสเลือดมากน้อยแค่ไหน
- ตรวจหาการทำงานของไต (Creatinine) สารครีเอตินินเป็นสารของเสียที่พบได้ในเลือด ได้มาจากการเผาผลาญหรือการยืดขยับกล้ามเนื้อ แล้วไตจะกรองออก จากนั้นขับทิ้งออกมาผ่านทางปัสสาวะ

4. ตรวจระบบการแข็งตัวของเลือด- การตรวจการแข็งตัวของเลือด (PT) เป็นการตรวจหาระยะเวลาที่เลือดเริ่มแข็งตัว ซึ่งหากปกติค่าจะอยู่ที่ 10-14 วินาที แต่หากมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็อาจทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ส่งผลให้เลือดแข็งตัวเร็วไปหรือช้าไปนั่นเอง
- การตรวจการแข็งตัวของเลือด (INR) เป็นการตรวจเพื่อดูระบบการแข็งตัวของเลือด ภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือติดตามการรักษาในผู้ป่วยที่ทานยาวาร์ฟาริน (Wafarin) ผู้ป่วยโรคหัวใจ และผู้ที่ต้องตรวจสุขภาพก่อนทำศัลยกรรม
5. ตรวจสาเหตุเลือดออกง่ายหยุดยาก (PTT) เป็นการตรวจการทำงานของปัจจัยการแข็งตัวของเลือดจำเพาะ ซึ่งหากปัจจัยเหล่านี้ขาดหายหรือบกพร่องไป อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือเลือดไม่จับตัวเป็นลิ่มตามปกติ
6. ตรวจหาภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสเอดส์ เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัส HIV ที่ตรวจจากการทำงานของระบบภูมิต้านทานภายในเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีการต้านทานต่อเชื้อไวรัส HIV
7. ตรวจเอกซเรย์ปอด เป็นการตรวจที่ใช้รังสีวิทยาฉายในการบันทึกภาพ เพื่อตรวจวินิจฉัยความสมบรูณ์ หรือความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น กระบังลมทั้ง 2 ข้าง เนื้อปอด เส้นเลือดในปอด กระดูกซี่โครง และกระดูกส่วนบน เป็นต้น
ทำไมต้อง ตรวจเลือดก่อนทำศัลยกรรม ทุกครั้ง- เพื่อตรวจเช็กความผิดปกติของเม็ดเลือด เพราะอาจเกิดอันตรายระหว่างการดมยา
- ตรวจเช็กระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายว่าบกพร่องหรือไม่
- ตรวจเช็กโรคติดต่อหรือมีภาวะการติดเชื้อหรือไม่
โรคประจำตัวหรือประวัติการใช้ยา ที่ต้องบอกก่อนทำศัลยกรรม
เนื่องจากผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอาจมีความเสี่ยงจากการศัลยกรรมมากกว่าคนที่มีสุขภาพปกติดีทั่วไป หรืออาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง และใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัด หรือหลังผ่าตัด จากกลุ่มยาบางชนิดที่ใช้ในการผ่าตัด
ดังนั้น มาเช็กร่างกายให้พร้อมก่อนทำศัยลกรรมกันนะ เพื่อให้คุณเริ่มต้นความงดงามได้อย่างมั่นใจตามแบบที่คุณต้องการ
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
ศูนย์ตรวจสุขภาพ อาคาร 5 ชั้น 1
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 5160 - 5161
Line : @Paolochokchai4