1772
แพ็กเกจและโปรโมชั่น
แนะนำ
บริการ
ค้นหาแพทย์
ปรึกษาแพทย์ออนไลน์
ทำนัด
ศูนย์และคลินิก
การเข้ารับบริการ
ชำระค่าบริการ
บทความ
บทความสุขภาพ
จากใจผู้ใช้บริการ
ข่าวสารและกิจกรรม
เกี่ยวกับเรา
ข้อมูลโรงพยาบาล
ติดต่อเรา
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
สาสน์จากผู้บริหารสูงสุด
ร่วมงานกับเรา
360ํ view
TH
TH
EN
เข้าสู่ระบบ
ค้นหา
บริการ
แพ็กเกจและโปรโมชั่น
แนะนำ
ค้นหาแพทย์
ปรึกษาแพทย์ออนไลน์
ทำนัด
ศูนย์และคลินิก
การเข้ารับบริการ
ชำระค่าบริการ
บทความ
บทความสุขภาพ
จากใจผู้ใช้บริการ
ข่าวสารและกิจกรรม
เกี่ยวกับเรา
ข้อมูลโรงพยาบาล
ติดต่อเรา
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
สาสน์จากผู้บริหารสูงสุด
ร่วมงานกับเรา
360ํ view
สาขาของเรา
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
บทความ
บทความสุขภาพ
ไขข้อข้องใจ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Knee Arthroplasty)
เปาโล พระประแดง
5 ก.ค. 65
แชร์
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Knee Arthroplasty)
ในกรณีที่โรคข้อเข่าเสื่อมขั้นรุนแรง หรือ ผ่านการรักษาด้วยยา ร่วมกับการทำกายบริหาร และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แล้วอาการไม่ดีขึ้น การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพื่อลดอาการปวด เพิ่มพิสัยการขยับของข้อ และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในปัจจุบันการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมสามารถทำได้หลายวิธี
จากการศึกษาการผ่าตัดข้อเข่าเทียม ได้ผลดีเยี่ยม
โดยมีอายุการใช้งาน 10 ปี และ 15 ปี มากกว่า 90% วัสดุของผิวข้อเข่าเทียม
ผลิตมาจากโลหะและโพลิเมอร์ ที่แข็งแรงและปลอดภัยต่อร่างกาย และได้มาตรฐานการรับรองสากล จากประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ผิวข้อเข่าเทียมยึดติดกับกระดูกด้วย ซีเมนต์ (Bone cement) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการยึดเกาะระหว่างผิวข้อโลหะกับกระดูก ปัจจุบันมีข้อเข่าเทียมหลายประเภทให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจของแพทย์ ความต้องการของผู้ป่วย และ งบประมาณค่าใช้จ่าย การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในปัจจุบันไม่น่ากลัวอีกต่อไป เนื่องจากการให้ยาลดอาการปวดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นร่วมกับเทคนิคการผ่าตัดสมัยใหม่ ทำให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วมากขึ้น และโดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเดินด้วยอุปกรณ์ช่วยเดินได้ทันทีภายในหนึ่งวันหลังผ่าตัดถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ทำให้ระยะเวลานอนโรงพยาบาลหลังการผ่าตัดสั้นลงเพียง 5-7วัน โดยเฉลี่ย
เปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมแบบบางส่วน
Unicompartmental Knee Arthroplasty (UKA)
ในปัจจุบันนี้ การเปลี่ยนข้อเข่าเทียมแบบบางส่วน unicompartmental knee arthroplasty เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคข้อเข่าเสื่อมแบบบางส่วน แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนข้อเข่าเทียมแบบบางส่วน ถ้าโรคข้ออักเสบของผู้ป่วยจำกัดอยู่ในส่วนหนึ่งเดียวของข้อเข่า
โดยปกติข้อเข่าจะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนหลักช่องตรงกลาง (ส่วนด้านในของหัวเข่า), ช่องด้านข้าง (ส่วนนอก) และช่องของลูกสะบ้า ในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าแบบบางส่วน unicompartmental มีเพียงช่องเสียหายจะถูกแทนที่ด้วยโลหะและพลาสติก ในส่วนกระดูกอ่อนที่ปกติดีและกระดูกในส่วนอื่นที่ปกติ จะยังคงคงสภาพเดิมไว้ ซึ่งแตกต่างจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมแบบทั่งข้อ
ข้อดีของการเปลี่ยนข้อเข่าบางส่วน
• การฟื้นตัวได้เร็วมาก
• ความเจ็บปวดน้อยหลังการผ่าตัด
• สูญเสียเลือดน้อย
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด
(Total Knee Arthroplasty)
การผ่าตัดที่ใช้ในการรักษาภาวะข้อเข่าเสื่อมขั้นรุนแรงโดยการนำเอาส่วนผิวข้อเข่าที่เสื่อมแล้วออกไป แล้วทดแทนด้วย ผิวข้อเข่าเทียมทั้งหมด ทั้งส่วนของกระดูก Femur, Tibia และ Patella การเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมแบบทั้งหมด ที่เป็นการผ่าตัดโดยการตัดผิวข้อเข่าที่เสียหายของกระดูกส่วนปลายต้นขา (Femur) และส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง (Tibia) ทั้งด้านในและนอก (Medial and lateral compartment) ออกทั้งหมด
การผ่าตัดวิธีนี้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีการทำลายของกระดูกอ่อนและเอ็นภายในข้อเข่าไปมากแล้ว รวมถึงมีการผิดรูปของแนวขาร่วมด้วย การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมดนั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ได้ในคราวเดียว
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมดเหมาะกับใคร
ผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อเข่ามากจนทำให้คุณภาพชีวิตลดลง ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น การลุกนั่ง การเดินขึ้นลงบันได การเดินซื้อของ หรืออาการปวดที่เกิดขึ้นแม้อยู่ในขณะพัก เป็นต้น
ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการปวดข้อเข่ามาก หรือไม่ได้เป็นตลอดเวลา แต่อาการปวดนั้นส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตหรือการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ไม่อยากเดินขึ้นลงบันได ช่วยเหลือตัวเองได้ลำบาก ไม่สามารถยืนเองได้ต้องมีคนคอยพยุงอยู่ตลอดเวลา
ผู้ป่วยใช้การรักษาโดยวิธีอื่น เช่น การรับประทานยา การรักษาทางชีวภาพ การทำกายภาพบำบัด แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือดีขึ้นด้วยการรับ
ผู้ป่วยมีลักษณะของขาที่โก่งมาก ข้อเข่าติด เคลื่อนไหวได้ลดลง เหยียดเข่าได้ไม่สุด และงอเข่าได้น้อยกว่า 90 องศา
สามารถทำได้ในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 50-60 ปีขึ้นไป ร่วมกับมีปัจจัยดังกล่าวข้างต้นร่วมด้วย โดยที่ผู้ป่วยต้องไม่กลับไปทำกิจกรรมที่มีแรงกระแทกต่อข้อเข่ามากๆ เล่นกีฬาที่มีแรงปะทะ หรือยกของหนัก
การผ่าตัดวิธีนี้ ไม่เหมาะกับคนที่ยังอายุน้อยมากๆ เพราะอุปกรณ์มีการสึกหรอไปตามกาลเวลา โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 15-20 ปี จึงอาจต้องมีการผ่าตัดซ้ำอีกครั้ง
หากผู้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกบางชนิด เช่น มีภาวะกระดูกพรุนขั้นรุนแรง โรครูมาตอยด์ หรือโรคกระดูกอ่อนบางโรค เช่น โรคกระดูกอ่อนไม่แข็งแรง ต้องมีความระมัดระวังในการผ่าตัด
ข้อจำกัดการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
มีข้อดีหลายประการ แต่ไม่สามารถใช้เทคนิคดังกล่าวกับคนไข้โรคข้อเข่าเสื่อมได้ทุกราย เช่น
คนไข้ที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อมขั้นรุนแรง ร่วมกับมีการโก่งงอ ของข้อเข่ามาก
คนไข้ที่มีภาวะข้อเข่ายึดติดอย่างรุนแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวข้อเข่าได้ ในระหว่างทำการผ่าตัด
คนไข้ที่ร่างกายมีภาวะน้ำหนักมาก จะไม่เหมาะที่จะใช้การผ่าตัดดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยใช้เทคโนโลยี ด้านคอมพิวเตอร์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถช่วยให้ การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง คุ้มค่า เมื่อเปรียบเทียบกับการ เพิ่มโอกาสให้ผิวข้อเข่าเทียมมีอายุใช้งานที่นานมากขึ้น โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดแก้ไขในภายหลังอีกครั้ง
การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
ผู้ป่วยสามารถลุกนั่ง ขยับขา และข้อเท้าได้ทันที เมื่อรู้สึกตัวหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เส้นเลือดดำบริเวณขา ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะนี้ อาจได้รับยาละลายลิ่มเลือดชนิดฉีดหรือรับประทาน นาน 2-3 สัปดาห์
โดยทั่วไปหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยควรจะงอเข่าได้อย่างน้อย 90 องศา และเหยียดได้เกือบสุด ถึงจะอนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านได้ หลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำได้ถ้าเลือกวิธีปิดแผลด้วยกาวกันน้ำ สำหรับผู้ป่วยอื่น ๆ ทั่วไป ต้องดูแลแผลผ่าตัดให้แห้ง และห้ามโดนน้ำประมาณ 10 ถึง 14 วันหลังผ่าตัด ไม่แนะนำให้แช่ในอ่างอาบน้ำ หรือว่ายน้ำในหนึ่งเดือนแรกของการผ่าตัด
โดยส่วนใหญ่หลังการผ่าตัดสามารถลงน้ำหนักได้ทันที ร่วมกับการใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน ในช่วง 4 สัปดาห์แรก โดยเริ่มจากอุปกรณ์ช่วยเดินแบบสี่ขา เพื่อความมั่นคงขณะเดินและลดอาการปวดจากการลงน้ำหนักที่ขา เมื่อผู้ป่วยสามารถลงน้ำหนักได้มากขึ้นอาจพิจารณาเปลี่ยนอุปกรณ์ช่วยเดินเป็นไม้คำยัน และไม้เท้า อย่างไรก็ตามการลงน้ำหนักและการเดินขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทีมแพทย์ผู้ผ่าตัด
ปัจจัยเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม ที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
“โรคข้อเข่าเสื่อม” เป็นรูปแบบของ “โรคข้ออักเสบ” ที่พบบ่อยมากที่สุด โดยมากแล้ว จะพบผู้ป่วยที่มีข้อเข่าเสื่อมที่อายุเฉลี่ยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เนื่องจากปัจจัยด้านฮอร์โมน กระดูก กล้ามเนื้อ ทั้งนี้ ปัจจุบันยังพบโรคข้อเข่าเสื่อมในคนที่อายุน้อยลงอีกด้วย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยได้ เนื่องจากข้อเข่าเป็นข้อต่อที่มีการใช้งานเยอะ และรองรับน้ำหนักของร่างกายโดยตรงหรือมีโรคประจำตัวเป็นโรคไขข้ออักเสบ เช่น รูมาตอยด์ หรือ เกาท์ กลุ่มโรคเหล่านี้จะทำลายกระดูกอ่อนไปเรื่อย ๆ เมื่อกระดูกอ่อนผิวข้อมีการสึกหรอมากขึ้น จึงก่อให้เกิดอาการปวดเข่าขึ้น และยังไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในข้อเข่าอีกด้วย จนทำให้เกิดปวดบวมและติดแข็งของข้อเข่าในท้ายที่สุด
เมื่อผิวข้อสึกเสื่อมไปมากขึ้น จะเริ่มสังเกตเห็นเข่าผิดรูป ไม่ว่าจะเป็นเข่าโก่ง หรือเข่าฉิ่ง ร่างกายสร้างกระดูกงอกขึ้นซึ่งไปเสียดสีกับเส้นเอ็นโดยรอบเข่า ส่งผลให้เกิดการอักเสบและปวดมากขึ้น นอกจากนี้การหดเกร็งของเส้นเอ็น และ กระดูกงอกที่สร้างขึ้นโดยรอบเข่า ไปจำกัดพิสัยการงอ หรือเหยียดเข่า ทำให้ส่งผลต่อความสามารถในการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น ไม่สามารถ นั่งเก้าอี้ต่ำ, นั่งขัดสมาธิ, ขึ้นลงบันได หรือ นั่งบนพื้นได้
คลินิกศัลยกรรมกระดูกและข้อ
โรงพยาบาลเปาโล พระประแดง
02-818-9000
แชร์
ยืนยัน
เลือกสาขารพ.
เลือกสาขารพ.
เลือกสาขารพ.
เลือกสาขารพ.
เลือกสาขารพ.
เลือกสาขารพ.
ตะกร้าสินค้าของคุณ
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
เลือกสาขารพ.