ผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจากการใช้ยา และเกิดผลข้างเคียงได้ง่ายเนื่องจากผู้สูงอายุมีโรคร่วมหลายอย่าง และมีโอกาสได้รับยาหลายชนิดในเวลาเดียวกัน อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาจากความชรากับการกำจัดยาออกจากร่างกาย ทำให้การดูดซึมยาลดลง การกระจายตัวของยาไม่ค่อยดี อาจพบปริมาณยาที่ค้างในร่างกาย และพบว่าการกำจัดยาทางไตทำได้ลดลง ดังนั้น เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาในผู้สูงอายุ ผู้ที่รับหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องให้ความสำคัญ และระมัดระวังเกี่ยวการใช้ยาในผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้น
ผู้สูงอายุควรใช้ยาอย่างไรจึงเกิดประโยชน์และปลอดภัย
หลังจากที่พบแพทย์ และได้ยามารับประทาน ผู้ดูแลควรจัดยาให้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สูงอายุสามารถใช้ยาได้อย่างถูกต้อง โดยสิ่งที่สำคัญในการเริ่มใช้ยา คือ การอ่านฉลากยาให้ถี่ถ้วน เพื่อให้สามารถใช้ยาได้อย่างต้อง ตรงโรค ถูกขนาด ถูกวิธี และตรงเวลา ควรตรวจดูวันหมดอายุของยา นอกจากนี้ ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอพร้อมติดตามการรักษากับแพทย์ ไม่ควรอย่านำตัวอย่างยาเดิมไปซื้อมารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาอยู่ ณ ปัจจุบัน ในกรณีที่มีอาการเจ็บป่วยหลายโรคพร้อมกัน และได้รับยาในแต่ละโรคจากแพทย์หลายๆท่าน ผู้ป่วยควรนำยาทั้งหมดไม่ว่าจะได้รับจากที่ใดมาให้แพทย์ หรือเภสัชกรตรวจเช็คเป็นระยะเพื่อป้องกันการรับประทานยาที่ซ้ำซ้อน และเกินขนาดจนส่งผลเสียต่อร่างกาย
สิ่งต้องระวังเกี่ยวกับการใช้ยาในผู้สูงอายุ
ผู้ป่วยสูงอายุ และผู้ดูแลควรหลีกเลี่ยงการซื้อยาสมุนไพร ยาหม้อ และยาลูกกลอนมารับประทานเอง เนื่องจากอาจมีผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหาปวดข้อตามที่ต่างๆ ผู้ป่วยมักเข้าใจว่าปลอดภัยเพราะทำมาจากสมุนไพร แต่มักมีการผสมยาประเภทสเตียรอยด์ ทำให้หายปวดข้อได้จริงแต่มีผลเสียในระยะยาวมากมาย เช่น กระดูกพรุน ต่อมหมวกไตฝ่อ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง และอย่าเก็บยาที่เหลือไว้รับประทานครั้งต่อไป เนื่องจากยาอาจหมดอายุหรืออาจไม่ใช้ยาตัวเดิม ไม่ควรหยุดยาเอง ซึ่งอาจเกิดจากผู้สูงอายุไม่ชอบประทานยา บางรายถึงขั้นปรับขนาดยาเองโดยที่ไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะเห็นว่าอาการดีมากขึ้นแล้ว ส่งให้ผู้ป่วยไม่ได้รับยาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับประทานอย่างต่อเนื่อง เพราะเดินทางมาพบแพทย์ไม่สะดวก ซึ่งพบได้บ่อยโดยที่ญาติมาขอรับยาเดิมจากแพทย์ โดยไม่พาผู้ป่วยมารับการติดตาม บางรายกินยาชุดเดิมอยู่หลายปี จุดนี้เองที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ ยาเหล่านี้จะสะสมจนเกิดเป็นพิษได้โดยไม่รู้ตัว
กลุ่มยาที่ผู้สูงอายุควรระมัดระวังการใช้เป็นพิเศษ
ผู้สูงอายุหลายท่านมักมีอาการนอนไม่หลับ และมีความวิตกกังวลในหลายด้าน โดยเฉถาะปัญหาความเป็นอยู่ของลูกหลานส่งผลให้หลายๆ ท่านหันมาใช่ยานอนหลับ ยาคลายเครียด ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ผู้สูงอายุจำเป็นต้องระมัดระวังเนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัต พลัด ตกหกล้มได้ ซึ่งกลุ่มยาเหล่านี้มีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการ ง่วงซึม สับสน เวียนศีรษะได้ นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของวิตามินอาหารเสริมต่างๆ ที่ลูกหลานหวังดีซื้อหามาให้รับประทานเพื่อหวังให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่าวิตามินบางตัว หรือ สมุนไพร อาหารเสริมบางชนิด ไม่ได้เหมาะกับผู้สูงอายุทุกราย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีประวัติโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคไต เพราะอาจทำให้แร่ธาตุในร่างกายผิดปกติหรือการทำงานของไตแย่ลงได้ หากต้องการเสริมวิตามิน แนะนำปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสียก่อน
หากผู้สูงอายุลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร
โดยทั่วไปหากลืมรับประทานยา จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เนื่องจากยาบางชนิดให้รับประทานทันทีที่นึกได้ ยาบางชนิดอาจต้องรอรับประทานมื้อถัดไป เพื่อป้องการการลืมรับประทานยาของผู้ป่วย ผู้ดูแลอาจแบ่งจัดเช็ตยากล่องใส่ยา สำหรับมื้อ เช้า กลางวัน ก่อนนอน หรือก่อนหรือหลังอาหารไว้ได้ แต่ไม่แนะนำให้เตรียมยาล่วงหน้าครั้งละมากๆ หากเป็นยาบรรจุแผง แนะนำให้ตัดแผงยาตามเม็ดและเอาเม็ดยาออกจากแผงเมื่อจะรับประทานเท่านั้น เนื่องจากยาบางชนิดอาจไวต่อแสงหรือความชื้นทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย
อย่างไรก็ตามแนะนำว่ายาทุกตัวที่ผู้สูงอายุรับประทานควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อลดปัญหาผลข้างเคียงจากการใช้ยา