ทำความรู้จัก “โรคเฮอร์แปงไจน่า”
โรคเฮอร์แปงไจน่า (Herpangina) เป็นโรคที่ติดเชื้อจากไวรัสชนิดเดียวกันกับมือ เท้า ปาก ซึ่งเป็น กลุ่มของเอนเตอโรไวรัส (Enterovirus) แต่มีอาการที่แตกต่างกันคือจะมีแผลเฉพาะที่ปากเท่านั้น สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางน้ำมูก ไอ จาม ลักษณะอาการจะมีไข้สูงประมาณ 39.5 - 40 องศาเซลเซียส และมีแผลในช่องปากบริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ ต่อม ทอนซิล และในโพรงคอหอยด้านหลัง แต่ถ้าเป็นมือ เท้า ปาก ไข้จะไม่สูง และมีแผลกระจายอยู่ทั่วปาก รวมทั้งมีผื่นขึ้นที่ฝ่า มือ และฝ่าเท้าด้วย
โรคเฮอร์แปงไจน่า ติดต่อได้อย่างไร?
การติดต่อเกิดขึ้นได้จากการสัมผัส หรือรับประทานสิ่งที่ปนเปือนกับเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระของผู้ที่ติดเชื้อ ผู้ที่ติดเชื้อโรคเฮอร์แปงไจน่ามักพบได้ในเด็กมากกว่าในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอายุน้อยกว่า 10 ปี ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากเด็กเล็กยังไม่มีภูมิต้านทานของเชื้อนี้เพียงพอ โดยเฉพาะเด็กที่อยู่รวมกันในโรงเรียนอนุบาล หรือสถานเลี้ยงเด็ก เพราะเด็กมักเล่นของเล่นร่วมกัน หยิบจับสิ่งของร่วมกัน ดังนั้นโรคนี้จึงมักระบาดได้ง่าย เพราะมีโอกาสติดต่อได้ง่าย โดยเชื้อนี้จะอยู่ได้นานในอากาศเย็น และชื้น จึงมักระบาดมากในฤดูฝน แต่ก็สามารถพบได้ตลอดทั้งปี
โรคเฮอร์แปงไจน่าอันตรายแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้วโรคเฮอร์แปงไจน่ามักจะมีอาการไม่รุนแรง ยกเว้นไข้สูง แต่ก็ต้องระวังภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้จากโรคนี้ เช่น การอักเสบของก้านสมอง กล้ามเนื้ออ่อนแรง และกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวพบได้น้อย
โรคมือ เท้า ปาก VS เฮอร์แปงไจน่า แตกต่างกันอย่างไร?
แม้ว่า “โรคมือ เท้า ปาก” และ “เฮอร์แปงไจน่า” เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกัน แต่อาการแสดงแตกต่างกัน คือ โรค มือ เท้า ปาก จะมีไข้ มีผื่น ตุ่มน้้าใส หรือเม็ด แดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า บางรายอาจมีอาการ อาเจียน ถ่ายเหลวรุนแรง ร่างกายขาดน้้า ปอดบวมน้้า หอบเหนื่อย ซึม ชัก เกร็ง ช็อกเสียชีวิต ส่วน “โรคเฮอร์แปงไจน่า” จะไม่พบผื่นบริเวณฝ่ามือ และฝ่าเท้า จะสังเกตอาการของโรคนี้ได้ค่อนข้างลำบากในช่วงแรก ต่อเมื่อเริ่มมีผื่นขึ้นจึงจะสามารถสังเกตอาการได้ บางรายอาจพบเพียงผื่น และแผลตื้น ๆ กราย ๆ ในช่องปาก เท่านั้น
การรักษา
โรคนี้ส่วนใหญ่หายได้เองเนื่องจากเกิดจากเชื้อไวรัส จึงไม่มียารักษาเฉพาะการรักษา เป็นเพียงการรักษา ตามอาการ เช่น มีไข้ เช็ดตัวลดไข้ ให้รับประทานยาลดไข้ร่วมกับให้ยาบรรเทาอาการอื่นๆ ลดความเจ็บปวดจากผื่นแผลในปาก กระตุ้นให้ดื่มน้้า และรับประทานอาหารเหลวทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง หากรับประทานอาหารได้น้อย และมีภาวะขาดน้้าเกิดขึ้น ได้แก่ ปากแห้ง ปัสสาวะออกน้อยลงและมีสีเหลืองเข้ม ให้รีบไปพบแพทย์
เมื่อพบติดโรคเฮอร์แปงไจน่า” ดูแลอย่างไร?
สำหรับเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ สามารถรับประทานอาหารได้ทุกอย่าง แต่ถ้าเด็กคนไหนมีอาการเจ็บในปากมาก ไม่ยอมรับประทาน หรือไม่ยอมกลืนอาหาร ควรหาของอ่อนๆ ให้เด็กรับประทาน หรือในบางครั้งให้รับประทานอาหารประเภทน้ำหรือนมเย็นๆ หรือไอศกรีมก็ได้ ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสนี้โดยเฉพาะ ดังนั้น การรักษาจึงให้การรักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ และยาชาทาแผลในปาก เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ โดยทั่วไปสามารถหายได้เอง เพียงแต่ต้องเฝ้าระวังเรื่องภาวะแทรกซ้อนดังที่ได้กล่าวไป ถ้าหากเด็กรับประทานอาหารไม่ได้ หายใจหอบ มีอาการแขนขาอ่อนแรง หรือชัก ควรรีบมาพบแพทย์
วิธีการป้องโรคเฮอร์แปงไจน่า
การป้องกันโรคทำได้โดยแยกผู้ป่วย หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ที่ไม่สบาย หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในที่ชุมชนแออัดรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดี ควรล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้งด้วยน้ำและสบู่ หากลูกหลานไม่สบายควรให้หยุดเรียนเพื่อจะได้ลดการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 1772 ต่อ กุมารเวช