ปวดประจำเดือน อาการเตือนของโรคมะเร็งสตรี
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
19-ส.ค.-2566

“ปวดท้องประจำเดือน” เป็นปัญหากวนใจที่ผู้หญิงเกือบทุกคนคงหนีไม่พ้น ซึ่งกี่ครั้งกี่หนก็ต้องทนกับอาการปวดประจำเดือน จนตัวขดตัวงอทุกเดือน และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตไม่ว่าจะ ปวดจนนอนไม่ได้ ปวดมากจนต้องลางาน และปวดจนหน้ามืด เป็นลม ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่าการปวดประจำเดือนเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงทุกคนต้องเป็น แต่นั่นอาจไม่ใช่ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนที่แฝงมากับอาการปวดประจำเดือน จึงจำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดนี้

 

ปวดประจำเดือน ความผิดปกติที่บ่งบอกว่าเสี่ยงโรคมะเร็งสตรี

  • เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นโรคหรือภาวะที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่นหรือบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ภายในโพรงมดลูก โดยเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกจะมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนในร่างกายตามรอบประจำเดือนเหมือนเซลล์ที่อยู่ในโพรงมดลูกที่จะมีประจำเดือนออกมาทุกรอบเดือน
  • เนื้องอกมดลูก (Myoma uteri) พบได้บ่อยในผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อของมดลูก โดยมีขนาดตั้งแต่เล็กมากไปจนถึงขนาดใหญ่ แต่หากเนื้องอกมีขนาดใหญ่ ก็อาจทำให้มีเลือดประจำเดือนออกมามาก หรือประจำเดือนมาแบบกระปริบกระปรอยนานเป็นสัปดาห์ และปวดหลังส่วนล่างแบบเรื้อรัง รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ หรือภาวะมีลูกยากได้
  • ภาวะปากมดลูกตีบ (Cervical stenosis) เกิดจากปากมดลูกแคบเกินไป ทำให้เลือดประจำเดือนไหลได้ช้าแต่หากรูปิดสนิท จะทำให้ของเหลวคั่งค้างภายในโพรงมดลูก ทำให้เกิดอาการปวดท้องมากและเรื้อรัง

 

ไม่อยากปวดประจำเดือน ต้องทำตามวิธีนี้

  • ประคบอุ่นบริเวณท้องน้อย ช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึง มีการผ่อนคลาย ซึ่งอาจลองประคบครั้งละ 3-5 นาที เพราะความอุ่นจากประเป๋าน้ำร้อนจะช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น
  • ออกกำลังกายแบบเบาๆ  เช่น การเดิน หรือเล่นโยคะ แต่ไม่ควรออกกำลังกายแบบหนัก เพราะช่วงมีประจำเดือนร่างกายจะอ่อนเพลีย อาจเสี่ยงเป็นลมได้ในระหว่างออกกำลังกาย
  • ดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำขิง ช่วยลดอาการท้องอืด ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และไม่ควรดื่มน้ำเย็น เพราะอาจทำให้เลือดจับตัวเป็นก้อน ขับออกยาก ส่งผลให้อาการปวดท้องรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
  • เน้นเลือกทานแมกนีเซียม เพราะแมกนีเซียมมีส่วนช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเกร็งในช่องท้อง ทำให้อาการปวดประจำเดือนทุเลาลงได้ โดยอาหารกลุ่มจำพวกที่มีแมกนีเซียมสูง ประกอบไปด้วย  อัลมอนด์ ดาร์กช็อกโกแลต ผักโขม ตำลึง ทูน่า และ กล้วย เป็นต้น
  • การนอนขดตัว หรือนอนตะแคง เป็นท่าที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อท้องได้ ซึ่งอาจลองปรับเปลี่ยนท่านอนสลับไปมาว่าตัวเองนอนท่าไหนแล้วสามารถลดอาการปวดท้องได้

 

เพราะการประจำเดือน เป็นภาวะที่ปล่อยไว้ให้เรื้อรังไม่ได้ จำเป็นต้องรีบตรวจหาสาเหตุของการปวดประจำเดือนให้แน่ชัด เพราะหากลุกลามหรือเรื้อรัง ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่างๆ หรือสร้างความทุกข์ใจกับชีวิตคุณได้


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

ศูนย์สุขภาพสตรี อาคาร 5 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 5148 - 5220
Line : Paolochokchai4