โรคทางเดินหายใจในผู้สูงอายุ
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
21-พ.ย.-2561
วัยสูงอายุ เป็นช่วงวัยที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงวัยที่ร่างกายเริ่มจะถดถอยเพราะต้องเจอกับความเสื่อมที่มากับกาลเวลา ซึ่งปัญหาสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจและโรคต่างๆ มักจะเกิดขึ้นกับคนกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษหากไม่ดูแลตัวเองให้ดี ทั้งนี้รวมถึงโรคที่เกิดกับระบบทางเดินหายใจซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่ต้องดูแลมากกว่ากลุ่มอื่น แต่จะมีโรคอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้างนั้น พญ.ใหม่ เลาหสุขเกษม อายุรแพทย์ ประจำคลินิก หู คอ จมูก โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 จะมาอธิบายให้ได้รู้กัน

ทำไมต้องกังวลเรื่องทางเดินหายใจในผู้สูงอายุ

โดยสรีระของผู้สูงอายุในทางเดินหายใจนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงก็คือ ปริมาตรความจุของปอดนั้นจะลดลง ความยืดหยุ่นของเนื้อปอดและหลอดลมก็จะลดลงไปด้วย ดังนั้นผู้สูงอายุเมื่อป่วยโดยมีการติดเชื้อในทางเดินหายใจก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีน้ำไปคั่งอยู่ในปอด และอาจจะลามไปเป็นปอดอักเสบหรือปอดติดเชื้อก็เป็นได้

3 โรคทางเดินหายที่มักพบบ่อยในผู้สูงอายุ

1.ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ มีความแตกต่างจากอาการไข้หวัดใหญ่ในคนทั่วไปคือ อาจจะมีอาการรุนแรงที่มากกว่า และอาจจะมีอาการแทรกซ้อนอย่างไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือปอดอักเสบแทรกซ้อนได้ง่าย เนื่องจากว่าในผู้สูงอายุภูมิต้านทานจะลดน้อยกว่าวัยหนุ่มสาว

สำหรับอาการที่จะสังเกตว่าผู้สูงอายุในครอบครัวของเรานั้นป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่นั้น จะพบว่าผู้สูงอายุจะมีอาการซึม ทานข้าวไม่ได้ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ไอแห้ง เจ็บคอ และมีน้ำมูก ซึ่งหากพบว่ามีอาการเหล่านี้และมีไข้สูง หอบเหนื่อย ต้องรีบพามาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและนำของเหลวจากจมูกหรือลำคอของคนไข้ไปตรวจหาชนิดจองเชื้อไวรัสเพื่อรักษาโดยเร่งด่วน เพราะหากปล่อยให้ผู้สูงอายุเป็นไข้หวัดใหญ่เป็นเวลานานอาจส่งผลอันตรายแทรกซ้อนที่ไม่คาดคิดและส่งผลต่อชีวิตได้ ซึ่งหากพาผู้ป่วยมาพบแพทย์แพทย์จะให้ยาต้านไวรัสเพื่อช่วยลดระดับความรุนแรงของโรค และนอกเหนือจากนั้นแพทย์ก็จะรักษาตามอาการเช่น ให้ยาแก้ไข้ ยาแก้ไอและให้พักผ่อนให้เพียงพอ

2.ปอดบวม หรือปอดอักเสบ

โรคปอดบวม เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสเป็นส่วนใหญ่ โดยระดับความรุนแรงของโรคจะมีความแตกต่างกันออกไป แต่ในผู้สูงอายุนั้นเป็นกลุ่มที่มีภูมิต้านทานต่ำ โอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลวจะส่งผลต่อชีวิตนั้นมีมากถึง 50 % เพื่อลดความเสี่ยงในข้อนี้จึงควรป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุต้องมีปัญหาในเรื่องของระบบทางเดินหายใจ

สำหรับอาการโรคปอดอักเสบในผู้สูงอายุนี้ ระยะการดำเนินของโรคอาจจะไม่แน่ชัด ทั้งนี้อาจจะอยู่ในระยะเวลา 3 วัน หรือเป็นสัปดาห์ก็ได้ หากพบว่าคนไข้มีอาการไอมีเสมหะ หายใจหอบเหนื่อย เจ็บแน่นหน้าอก อ่อนเพลีย มีไข้สูง อาจจะเป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาแต่อาจจะมีปอดอักเสบร่วมด้วย ซึ่งจำเป็นต้องรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ในส่วนของการรักษานั้นแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจเลือด และเอกซเรย์ปอด เพื่อยืนยันและตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุของอาการป่วย ซึ่งผลที่ได้จะนำไปสู่แนวทางในการรักษาที่ถูกต้อง

สำหรับการรักษานั้นแพทย์จะให้ยาในรูปแบบของการกินและฉีด โดยจะพิจารณาจากระดับความรุนแรงของโรค หากอาการดีขึ้นแพทย์ก็จะนัดติดตามอาการเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นอีกได้

3.โพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง

จะเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นเนื่องจากเมื่อผิวหนังแห้งผิวหนังขาดความชุ่มชื้นและมีการอักเสบเรื้อรังผู้ที่อายุมากขึ้นบุโพรงจมูกและผิวหนังก็จะมากขึ้นและขาดความชุ่มชื้นก็จะทำให้อักเสบได้ง่ายหรือว่ามีเลือดออกง่ายก็ได้ด้วยเช่นกันโดยบางคนจะมีอาการคัดจมูกอยู่บ่อยๆถ้าจมูกอยู่ตลอดเวลาซึ่งก็ต้องมาตรวจหาสาเหตุว่าเกี่ยวกันไหมกับเยื่อบุที่บางลงเลยทำให้กับอักเสบขึ้นมา โดยแพทย์จะทำการส่องกล้องตรวจโดยใช้กล้องที่สามารถส่องเข้าไปดูในโพรงจมูกและโพรงไซนัสได้ด้วยจะสามารถดูได้ว่าเยื่อบุโพรงจมูกมันมีลักษณะเป็นอย่างไรรวมไปถึงมีริดสีดวงจมูกหรือไม่หรือมีไซนัสอักเสบหรือไม่เช่นนี้เป็นต้น

โดยในส่วนนี้แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลก็คือให้ความชุ่มชื้นกับจมูกโดยอาจจะให้น้ำเกลือที่ผสมสารให้ความชุ่มชื้นให้คนไข้ใช้เพื่อลดอาการอักเสบหรือหากเป็นยาทานเป็นยาก็จะเป็นยาในกลุ่มยาแก้แพ้อากาศหรือยาลดบวม



โรคทางเดินหายใจป้องกันได้

สำหรับผู้สูงอายุที่ภูมิต้านทานของร่างกายอาจจะไม่ได้แข็งแรงเหมือนช่วงวัยหนุ่มสาวนั้น ควรดูแลตนเองให้มากเป็นพิเศษเพราะเมื่อเจ็บป่วยความรุนแรงของโรคนั้นอาจจะมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นทางที่ดีจึงควรดูแลตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น การกินอาหารที่ประโยชน์ เน้นการกินผัก ผลไม้เพื่อเสริมภูมิต้านทาน พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายบ้างตามความสามารถ หลีกเลี่ยงการอยูใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดหรือเริ่มมีอาการ ล้างมือสม่ำเสมอเพื่อกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และหากเป็นไปได้แนะนำให้เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเผชิญหน้ากับปัญหาสุขภาพได้เป็นอย่างดี

สอบถามเพิ่มเติม

คลินิก หู คอ จมูก
โทร.02-514-4141 ต่อ 1100 – 1101