กินยาคุมไปนานๆ เสี่ยง “มะเร็งเต้านม” จริงหรือ?
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
ยาคุมเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการคุมกำเนิดที่ง่าย สะดวก และราคาไม่แพง จึงเป็นวิธีที่สาวๆ นิยมมากที่สุด รวมถึงยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น ช่วยเรื่องผิวพรรณ รักษาสิว บรรเทาอาการปวดประจำเดือน และช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด

ทำความรู้จัก “ยาเม็ดคุมกำเนิด”

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ายาเม็ดคุมกำเนิดนั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือ ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ซึ่งเป็นยาคุมกำเนิดที่ประกอบด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนผสมกันอยู่ในเม็ดเดียวกัน ในขณะที่อีกประเภทหนึ่งคือ ยาคุมกำเนิดประเภทฮอร์โมนเดี่ยว ที่ภายในเม็ดยาจะประกอบด้วยโปรเจสโตเจน เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ยาคุมกำเนิดกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม

แม้ว่ามะเร็งเต้านมจะเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งภายนอกและภายในร่างกาย แต่ฮอร์โมนก็มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน บางข้อมูลบอกว่าการกินยาคุมต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น ซึ่งการเป็นมะเร็งเต้านมนั้นเกิดจากการที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนตามธรรมชาติผิดปกติ โดยมีฮอร์โมนดังกล่าวในอัตราที่สูงติดต่อกันเป็นเวลานาน จนเป็นเหตุให้มีความเสี่ยงเนื้อเยื่อเต้านมผิดปกติเพิ่มสูงขึ้นได้ จึงพบว่าผู้หญิงที่มีการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยใช้ และยังพบว่าในกลุ่มที่เริ่มใช้ยาคุมกำเนิดตั้งแต่ในวัยรุ่นยังมีความเสี่ยงจากฮอร์โมนมากขึ้นเป็นเท่าตัวอีกด้วย ยิ่งเริ่มใช้ในช่วงที่มีอายุน้อยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเกิดความเสี่ยงมากกว่าในวัยผู้ใหญ่ รวมถึงในกลุ่มคนที่ใช้เม็ดยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานกว่า 5 ปีขึ้นไป มักถูกตรวจพบว่ามีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม ยาเม็ดคุมกำเนิดจึงเป็นข้อห้ามของคนที่เป็นมะเร็งเต้านมเพราะอาจทำให้โรคกำเริบได้

ใช้ยาคุมกำเนิดอย่างไร ให้ห่างไกลจากมะเร็งเต้านม

อย่างไรก็ตามการกินยาคุมกำเนิดยังคงเป็นทางเลือกสำหรับป้องกันการตั้งครรภ์ที่ง่ายและสะดวกสำหรับผู้หญิงในยุคนี้ แต่เพื่อความปลอดภัยก่อนเริ่มต้นกินยาคุมกำเนิดควรปรึกษาสูตินารีแพทย์ เพื่อเลือกชนิดของยาคุมกำเนิดรวมถึงปริมาณของฮอร์โมนที่อยู่ในยาดังกล่าวให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป เพราะหากซื้อยาคุมกำเนิดมาใช้เอง ก็ไม่อาจทราบได้ว่าปริมาณของฮอร์โมนที่อยู่ในยาคุมกำเนิดชนิดนั้นๆ เป็นปริมาณที่เหมาะสมกับเราหรือไม่ และพยายามหลีกเลี่ยงการกินยาคุมกำเนิดติดต่อกันเกิน 5 ปี รวมถึงควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ด้วย