เคลียร์ชัดๆกิน “แคลเซียม” ช่วย “เสริมกระดูก” ได้จริงหรือไม่
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
08-พ.ย.-2561
title กระดูกที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างดีเท่าที่ควรก็ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อ “โรคกระดูกพรุน” ได้ง่าย ซึ่งการป้องกันหลักๆ ที่เราเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ก็คือการ “กินแคลเซียม” เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก

แต่การกินแคลเซียมที่นิยมนั้นจะช่วยได้จริงๆ หรือไม่? หากกินมากเกินไปจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า? มาหาคำตอบกัน

ทำความเข้าใจเรื่อง “มวลกระดูก” กับอายุ

กระดูกไม่ได้หยุดการเจริญเติบโตแค่ในช่วงวัยรุ่น แม้ว่าขนาดของกระดูกจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ “มวลกระดูก” จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามตัวเลขอายุ และกระดูกจะมีมวลสูงสุด เมื่ออายุ 25-30 ปี และคงที่ไปจนถึงอายุประมาณ 40 ปี หลังจากนั้นมวลกระดูกจึงค่อยๆ ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยประมาณ 0.3-0.5% ต่อปี

“กินแคลเซียม” ช่วยเสริมกระดูกได้จริงหรอ?

ถ้าพูดถึงการเสริมกระดูกเพื่อป้องกันโณคกระดูกพรุน แน่นอนว่าเราจะนึกถึงอาหารเสริม อย่าง “แคลเซียม” ซึ่งหากถามว่าเราควรกินแคลเซียมเพื่อเสริมสร้างกระดูกหรือไม่? คำตอบคือขึ้นอยู่กับปริมาณแคลเซียมที่คุณได้รับจากอาหารในแต่ละวัน โดยปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับคือประมาณ800-1,000 มก. ต่อวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การทานแคลเซียมให้เพียงพอควรทำต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงอายุยังไม่มาก เพราะเมื่อมวลกระดูกลดลงในช่วงอายุมากขึ้น เราก็ไม่สามารถทำให้มวลกระดูกกลับมาหนาแน่นเท่าเดิมได้ แต่สิ่งที่เราทำได้ คือ การดูแลให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลงอย่างช้าที่สุดนั่นเอง

5 เคล็ดลับรักษามวลกระดูก…ลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน

1.ออกกำลังกาย เช่น การวิ่งเหยาะ เดินสลับวิ่ง เต้นแอโรคบิก เดินขึ้นบันได ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือกระโดดเชือก ส่วนในผู้สูงอายุควรเลือกการออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น การรำมวยจีน โดยออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไปจะทำให้กระดูกแข็งแรง
2.ทานแคลเซียมให้เพียงพอ โดยตามคำแนะนำของกรมอนามัย ระบุไว้ว่าผู้ที่อายุน้อยกว่า 50 ปี ควรทานแคลเซียมให้ได้ประมาณ 800 มิลลิกรัมต่อวัน ในขณะที่ผู้ที่มีอายุ 51 ปีขึ้นไป ควรทานแคลเซียมให้ได้ประมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
3.ทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม ในกรณีที่ไม่สามารถทานแคลเซียมให้ได้ปริมาณตามที่กล่าวไปข้างต้น การทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้
4.เติมวิตามินดีให้ร่างกายด้วยการรับแสงแดดยามเช้า เพราะวิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เราจึงควรออกไปรับแสงแดดในช่วงเวลาประมาณ 00-10.00 น. เป็นเวลา 30 นาทีจะช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้มากถึง 200 ยูนิตเลยทีเดียว
5.ลดพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นต้น

รู้ไหม? ทานแคลเซียมมากไปก็เสี่ยงโรคได้นะ

อะไรที่น้อยไปและมากไปย่อมไม่ส่งผลดี การทานแคลเซียมในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่วในไต มะเร็งต่อมลูกหมาก ท้องผูก การดูดซึมธาตุเหล็กและสังกะสีในร่างกายบกพร่อง หรือภาวะแคลเซียมเกาะตามผนังหลอดเลือด ดังนั้นการวางแผนในการทานอาหารเพื่อควบคุมปริมาณแคลเซียมให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

สอบถามรายละเอียด

ศูนย์กระดูกและข้อ อาคาร 2 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร.02-514-4141 ต่อ 1102 – 1105