-
เด็กสมาธิสั้น...อาการที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลย
แต่เดิมนั้น เด็กสมาธิสั้นจะพบได้มากในกลุ่มอายุไม่เกิน 7 ปี แต่ในปัจจุบันเกณฑ์การวินิจฉัยได้เปลี่ยนไปเป็นอายุไม่เกิน 12 ปี เนื่องจากมีการพบว่าผู้ใหญ่ก็สามารถเกิดโรคสมาธิสั้นได้ จากสถิติแล้วอาการสมาธิสั้นสามารถพบได้ถึงร้อยละ 8 ในประชากรเด็ก ตัวอย่าง เช่น ถ้าเด็กในห้องเรียนมี 50 คน จะพบเด็กสมาธิสั้นได้ราว 4 คน หรือมากกว่า แต่ทั้งนี้เด็กสมาธิสั้นสามารถหายได้จากการรักษาในหลายๆ วิธี หากคุณพ่อคุณแม่รู้เท่าทันอาการของโรคก็สามารถช่วยให้ลูกมีสมาธิที่ดีขึ้น และผ่านช่วงเวลาหนักๆ ไปได้อย่างมีความสุข
สาเหตุของการเกิดโรคสมาธิสั้นในเด็ก
เกิดจากสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุล ซึ่งโดยปกติสมองส่วนหน้าในเด็กจะหลั่งสารเคมีชนิดหนึ่งที่ช่วยให้เด็กมีสมาธิที่ยาวนานขึ้น และสามารถควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้ดีขึ้น แต่ในเด็กที่สมาธิสั้นจะหลั่งสารชนิดนี้ออกมาน้อย หรืออาจหลั่งสารออกมาแต่เกิดการสลายตัวเร็วเกินไป จึงทำให้เกิดอาการสมาธิสั้นได้ ทั้งนี้สาเหตุการเกิดสมาธิสั้นยังอาจเกิดได้จาก
สัญญาณและอาการของ...เด็กสมาธิสั้น
เด็กซนผิดปกติ : เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ควรซน เด็กที่สมาธิสั้นจะไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของตัวเองได้ หรืออาจควบคุมได้แค่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นจะกลับมาเป็นตัวของตัวเอง การซนแบบผิดปกตินี้คือการซนที่รบกวนหรือก่อความเสียหายให้กับผู้อื่น
สติปัญญาบกพร่อง : เด็กจะเรียนรู้ช้าในทุกด้าน ทักษะการแก้ปัญหาไม่ดี ช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ดี ส่วนใหญ่เด็กที่มีสติปัญญาบกพร่องจะพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับสมาธิจดจ่อไม่ค่อยดี เช่น เวลาเรียนสิ่งต่างๆ ที่ยากขึ้นอาจมีการเหม่อ นั่งนิ่ง หรือตามสิ่งที่เรียนอยู่ไม่ทัน
ภาวะเรียนรู้บกพร่องเฉพาะด้าน : เป็นโรคร่วมที่อาจเกิดขึ้นในเด็กสมาธิสั้นได้ โดยอาการนี้จะเกี่ยวกับการบกพร่องในทักษะใดทักษะหนึ่ง เช่น มีทักษะการแก้ปัญหา ช่วยเหลือตนเองและเข้าสังคมได้ดี เด็กจะสามารถทำได้ดีด้านนั้นๆ แต่พอเจอทักษะที่บกพร่อง เช่น ทักษะวิชาการ หรือทักษะที่ต้องใช้การอ่าน เด็กที่สมาธิสั้นจะพยายามหลีกเลี่ยงทักษะนั้นๆ
มีภาวะออทิซึ่ม : เป็นภาวะที่มีปัญหาทางด้านพัฒนาการ บกพร่องทักษะการเข้าสังคม โดยส่วนใหญ่จะสังเกตได้ตั้งแต่เด็กยังเล็กๆ โดยมีอาการพูดช้า ไม่มองหน้าสบตา ไม่เล่นกับผู้อื่น อยู่ในโลกส่วนตัวของตนเอง มีพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น เล่นของเล่นซ้ำๆ มองหรือเล่นวัตถุที่มีลักษณะหมุนๆ ซ้ำๆ เป็นเวลานานเกินปกติ รวมถึงไม่เข้าใจอารมณ์ หรือความรู้สึกของผู้อื่นแม้ว่าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว
ภาวะบกพร่องทางการสื่อสาร : ภาวะนี้อาจเจอไม่บ่อยนัก แต่สามารถพบร่วมกับอาการของเด็กสมาธิสั้นได้ โดยเป็นอาการที่เด็กมีทักษะการสื่อสารที่ไม่ดี ทั้งๆ ที่สติปัญญาไม่ได้มีปัญหา เช่น พูดไม่ชัด พูดวกวน ไม่สามารถเล่าเรื่องที่ยาวหรือบอกความต้องการของตนเองได้
โรคทางกาย : เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับโรคลมชัก (อาการชักบางชนิดที่เป็นเหมือนเหม่อแล้วนิ่งไปสักพักแล้วจึงกลับมาปกติ) ความผิดปกติของไทรอยด์ เช่น โรคไทรอยด์สูง โรคโลหิตจางเป็นระยะเวลานานที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคธาลัสซีเมีย หรือโรคภูมิแพ้ที่ต้องใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อสมาธิ
มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน : มีปัญหาการนอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ โดยส่วนใหญ่อาการเหล่านี้จะพบในเด็กที่มีน้ำหนักเกิน ในกรณีที่นอนไม่พอจะพบในเด็กวัยรุ่นที่นอนดึกตื่นเช้า เนื่องจากต้องไปโรงเรียน ทำให้มีผลต่อสมาธิในการเรียน
อาการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอาการเกี่ยวข้องกับอาการของเด็กสมาธิสั้นทั้งสิ้น บางอาการอาจไม่ได้แสดงถึงเด็กที่มีสมาธิสั้นโดยตรง แต่เป็นอาการที่หากปล่อยไว้อาจทำให้เด็กเกิดอาการสมาธิสั้นได้
โรคที่มักเป็นร่วมในเด็กสมาธิสั้น
เมื่อสังเกตอาการของเด็กที่อาจมีสมาธิสั้นแล้ว ควรที่จะสังเกตอาการของโรคร่วมที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กที่มีสมาธิสั้นด้วย โดยโรคที่อาจเกิดร่วมกับเด็กสมาธิสั้นที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการไว้ ได้แก่
เด็กสมาธิสั้น รักษาอย่างไร?
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม
วิธีนี้เป็นการฝึกให้เด็กสมาธิสั้นได้ค่อยๆ ฝึกสมาธิ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทีละนิด ซึ่งจะทำให้เด็กมีสมาธิที่ดีขึ้นได้ เช่น
การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยยากลุ่ม Methylphenidate หรือ Atomoxetine วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ประสิทธิภาพดีและเห็นผลได้เร็วกว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยตัวยากลุ่มนี้จะเป็นตัวที่ไปทำให้สารเคมีในสมองที่หลั่งออกมานั้นสลายตัวช้าลง เด็กจะสามารถควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่ได้รับยาจะมีอาการที่นิ่งขึ้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการกดการทำงานของสมองแต่อย่างใด แต่เป็นการที่ตัวยาออกฤทธิ์เพื่อให้เด็กมีสมาธิมากยิ่งขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรสอนเด็กที่อยู่ในช่วงนั้น เพราะเด็กจะสามารถรับรู้ได้ดีกว่าปกติ
ผลข้างเคียงของการรักษาด้วยยา อาจมีเบื่ออาหาร น้ำหนักลด นอนหลับยาก ใจสั่น วิงเวียนศีรษะ อาเจียน ปวดท้อง หรือมีอาการขี้ใจน้อย ขี้กลัว ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นในแค่ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของการกินยา แต่เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งอาการเหล่านี้จะหายไป และหากมีอาการแพ้ยา เช่น ตาพร่ามัว หรือมีผื่นขึ้น ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
การรักษาด้วยวิธีแพทย์ทางเลือก
วิธีนี้จะเป็นการรักษา เช่น จำกัดอาหาร การเลือกรับประทานอาหาร หรือออกกำลังกาย เป็นต้น แต่ยังไม่มีการยืนยันด้วยผลงานวิจัย อาจสามารถใช้ได้ผลกับเด็กในบางคนเท่านั้น
เด็กสมาธิสั้น...สามารถหายเองได้หรือไม่?
โดยทั่วไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่งของเด็กที่สมาธิสั้นสามารถหายเองได้เมื่อผ่านอายุ 12 ปีขึ้นไป แต่คุณพ่อคุณแม่ยังคงต้องดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กที่ดีขึ้นจากสมาธิสั้นอยู่ เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องกินยาเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ก็ยังมีเด็กอีกครึ่งหนึ่งที่อาการดีขึ้นแต่ยังคงต้องกินยาแม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
หากไม่รักษาจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก?
หากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยไว้โดยที่เด็กสมาธิสั้นไม่ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือรับการรักษา รอเผื่อว่าอาการเด็กสมาธิสั้นจะหายไปเอง อาจเกิดผลเสียที่เกิดจากพฤติกรรม ดังนี้
เด็กสมาธิสั้นไม่ใช่เด็กที่เป็นโรคร้ายแรงอะไร แต่เป็นอาการที่สามารถหายขาดได้ หากเด็กได้รับการดูแลและเอาใจใส่จากคุณพ่อคุณแม่มากพอ ซึ่งการรักษาอาจต้องใช้เวลาและความร่วมจากทั้งของตัวของเด็ก พ่อแม่ และคุณครู โดยเฉพาะกำลังใจจากคุณพ่อและคุณแม่จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาด้วย หากเด็กที่ได้รับการรักษาแล้วอาการดีขึ้นหรือหายขาดได้ จะส่งผลให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ทั้งยังมีคุณภาพในการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย
บทความโดย
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
แผนก กุมารเวชกรรม อาคาร 1 ชั้น 2
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โทร 02-363-2000 ต่อ 2209-2210
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่
Facebook : Paolo Hospital Samutprakarn
Line official account : Paolo Hospital Samutprakarn