-
สร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่มีมานานเป็นร้อยปี เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งโรคนี้เกิดได้ในคนทุกช่วงอายุ และเป็นการติดเชื้อที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน ทั้งนี้ ยังมีอัตราการเสียชีวิตสูงในกลุ่มผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง
การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี นอกจากจะช่วยลดการแพร่กระจายโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ในปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 หากฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความสับสนในการตรวจเมื่อมีอาการ และยังช่วยลดอัตราการเสียชีวิต และการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลได้อีกด้วย
อาการของโรคไข้หวัดใหญ่...ทำไมถึงน่ากลัว?
โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ มักมีระยะฟักตัว 1-4 วัน ผู้ติดเชื้อสามารถมีอาการตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง โดยสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้
โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันที และในบางรายเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการรุนแรงที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้
กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่
กลุ่มเสี่ยงในที่นี้ จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของการเสียชีวิต มี 4 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
ดังนั้น กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จึงควรอย่างยิ่งที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันการเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมาได้
“ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่” เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดอาการรุงแรงและการเสียชีวิต
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการแนะนำให้ทุกคนฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยลดความรุนแรงจากการป่วยและการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน และลดการแพร่กระจายโรค โดยปัจจุบันวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่นิยมฉีด คือชนิด 4 สายพันธุ์ ซึ่งประกอบด้วยสายพันธุ์ A และสายพันธุ์ B (A/H1N1, A/H3N2, B/Victoria, B/Yamagata)
นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว เรายังควรลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ด้วยการหมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเอามือสัมผัสหรือหยิบอาหารเข้าปาก ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น และไม่ไปอยู่ในพื้นที่แออัด รวมถึงควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องการการติดเชื้อ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เรามีความปลอดภัยมากขึ้นได้