สีของตกขาวบอกอะไรเรา?

          ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิงเรานั้น การมีตกขาวในช่วงกลางของรอบเดือน และช่วงใกล้มีประจำเดือนนั้นเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็เป็นกันได้ เพราะตกขาวนั้น ช่วยสร้างความชุ่นชื้นให้กับช่องคลอด ลดความระคายเคือง โดยตกขาวที่ปกตินั้นต้องไม่มีสี ไม่มีกลิ่น

          แต่เมื่อใดก็ตามที่ตกขาวนั้นมีสีและกลิ่น รวมถึงแปลกออกไปตามมาด้วยอาการที่ผิดปกติร่วม เช่น ปวดท้อง ปัสสาวะขัด มีไข้ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น สีเปลี่ยนเป็นเหลือง หรือเขียว เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ และมีอาการคัน สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณบอกเราได้ว่า ช่องคลอดและปากมดลูกของเรามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว

สีของตกขาวที่ผิดปกติ



สีเหลือง ลักษณะคล้ายนมบูดมักเกิดจากเชื้อรา และอาจเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือเป็นโรคเบาหวาน



สีเขียว ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อรา หากมีฟองมักเกิดจากพยาธิ มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว มีอาการแสบคันบริเวณอวัยวะเพศ



สีน้ำตาล สาเหตุจากมีเลือดปนเล็กน้อยกับตกขาว อาจจะเป็นเพราะประจำเดือนตกค้าง หรือประจำเดือนผิดปกติ แต่ถ้ามีกลิ่นเหม็น อาจเกิดจากการติดเชื้อบริเวณปากมดลูก และหากมีอาการปวดท้อง อาจมีสาเหตุมาจากการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้



สีเทา มีฟอง กลิ่นเหม็นคล้ายคาวปลา เกิดจาก ภาวะของเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุลกัน เรียกว่าภาวะ Bacterial Vaginosis ซึ่งหากร่างกายอ่อนแอ การสวนล้างช่องคลอด การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เป็นต้น
     

          นอกจากตกขาวที่มีสีผิดปกติแล้ว สิ่งผิดปกติอีกอย่างที่พบได้คือ เป็นหนอง เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคหนอง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งหนองจะมีสีเหลืองหรือเขียว กลิ่นเหม็น และเกิดอาการปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย

          ตกขาวยังเป็นสัญญาณเตือนโรคมะเร็งให้เราได้อีกด้วย วิธีสังเกตก็คือ ตกขาวจะมีสีน้ำตาลบ้าง สีเหลืองบ้าง สีเทาบ้าง และมีกลิ่นแรง
จะเห็นได้ว่าตกขาวนั้นสามารถบอกโรคเราได้หลายชนิด ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่สามารถปล่อยปะละเลย หรือ น่าอายแต่อย่างใด ควรมาพบแพทย์ และได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป



ขอบคุณบทความดีๆ จาก
พญ.ธิติมา เหล่าศิริรัตน์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสูติ-นรีเวช



ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โทร 0-2577-8111
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต
Line ID : @paolorangsit