6 สิ่งที่ควรทำต้อนรับปีใหม่
โรงพยาบาลเปาโลรังสิต
21-ธ.ค.-2565
6 สิ่งที่ควรทำต้อนรับปีใหม่

          ใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนผ่าน ‘ปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่’ หลายคนอาจจะรู้สึกตื่นเต้นกับงานเฉลิมฉลอง หรือกำลังทบทวนถึงอดีตที่ผ่านมา และไม่ว่าที่ผ่านมาเราจะพบเจอกับช่วงเวลาดีๆ หรือประสบปัญหามากมาย แต่เมื่อปีเก่ากำลังจะผ่านไป เราทุกคนควรมาเริ่มต้นกันใหม่ ด้วยการวางแผนชีวิตและจัดการสิ่งแวดล้อมรอบกายให้ดี ซึ่งวันนี้เรามี 6 สิ่งที่น่าทำเพื่อต้อนรับปีใหม่... มาบอกกัน



ลิสต์ 6 สิ่ง...ที่ควรทำเพื่อ ‘ต้อนรับปีใหม่’
  1.  สะสางไฟล์งาน เอกสารต่างๆ ที่คั่งค้างหรือสะสมอยู่ เพื่อเริ่มต้นการทำงานเมื่อเข้าสู่ปีใหม่อย่างโล่ง สะอาด และสดใส ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์หรือเอกสารในตระกร้าบนโต๊ะทำงาน เราควรรื้อออกมาจัดระบบให้เข้าหมวดหมู่และจัดเก็บให้เรียบร้อย เคลียร์ไฟล์ที่ไม่ได้ใช้แล้วทิ้งไป หรืออาจฝากไว้ในระบบคลาวด์ สตอเรจ หรือ ดร็อปบ็อกซ์ต่างๆ เพื่อให้เรามีพื้นที่และตะกร้าโล่งๆ รอรับงานที่กำลังจะเข้ามา แถมยังช่วยให้เราสะสางงานที่ค้างอยู่ได้ง่ายขึ้น

  2.  ตู้เสื้อผ้าเป็นอีกที่หนึ่งที่เราควรจัดการในช่วงเปลี่ยนผ่านปี ลองสำรวจดูว่ามีเสื้อผ้าชิ้นไหนที่ซื้อมาแล้วแต่ไม่ค่อยได้ใช้ หากยังใส่ได้ลองเอามามิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าที่ใช้อยู่เป็นประจำ ถือโอกาสนี้ทำความสะอาดพร้อมเคลียร์เสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ ในตู้ที่คิดว่าจะไม่ได้ใช้อีกแล้ว อาจจะส่งต่อให้คนรู้จัก หรือนำไปบริจาคให้ผู้ที่ขาดแคลนเพื่อสร้างความสุขให้กับทั้งตนเองและผู้อื่น ทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ให้ตู้เสื้อผ้าให้พร้อมกับการมีชุดใหม่ๆ ในปีหน้า ส่วนเสื้อผ้าชิ้นไหนที่เก่ามากจริงๆ สามารถนำมาดัดแปลงใช้เป็นผ้าเช็ดฝุ่น เช็ดเท้า หรือเป็นผ้าถูพื้นก็ไม่เลวนะ

  3.  ลด ละ เลิก สิ่งที่ไม่ดีบางอย่างที่เราทำจนเป็นนิสัย เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มกาแฟหนักๆ การดื่มน้ำหวานมากๆ หรือการช้อปปิ้งที่มากเกินความจำเป็น ช่วงเปลี่ยนผ่านปีเราควรสำรวจตนเอง ซึ่งอาจจะต้องเขียนหรือจดสิ่งที่อยากจะเปลี่ยนแปลงเป็นข้อๆ ให้ชัดเจน จะได้กำหนดเป็นเป้าหมายที่วัดผลได้เป็นรูปธรรม เริ่มปฏิวัติตัวเองให้เป็นคนใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้น

  4.  จดไดอารี่ เพื่อบันทึกความคิดและความรู้สึกต่างๆ แล้วติดตามพร้อมหมั่นสำรวจดูพัฒนาการทางอารมณ์ เพื่อให้เห็นว่า บ่อยครั้งแค่ไหนที่เราอารมณ์ดีหรืออารมณ์เสีย หรือทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อเราได้ใช้เวลาทบทวนแบบมีสติ จะทำให้เรารู้ว่าบางทีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองข้ามคือสาเหตุที่มีผลต่อจิตใจของเรา การจดบันทึกในแต่ละวันจะช่วยให้เราได้สังเกตตัวเอง ว่ามีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกดีหรือหงุดหงิด เพื่อจะได้รู้เท่าทันปัจจัยรอบตัว จะได้หลีกเลี่ยงหรือปรับเปลี่ยนอารมณ์ให้ไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง

  5.  ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่เป็นไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าหมายใหญ่ๆ อย่างต้องรวย ต้องซื้อรถ ต้องซื้อบ้าน แต่เป็นเป้าหมายที่เราคิดว่าสามารถทำสำเร็จได้ใน 1 ปี อย่างเช่น การลดน้ำหนัก 5 Kg. การออกไปวิ่งเพื่อลงสนามมาราธอนในระยะเริ่มต้น 10.5 Km. การไปเที่ยวตามที่ต่างๆ หรือการเก็บเงินเพื่อซื้อของขวัญให้ตัวเอง โดยทำเป็นลิสต์และหมั่นทบทวนเพื่อดูความคืบหน้าบ่อยๆ แล้วสรุปผลตอนปลายปีว่าทำสำเร็จไปกี่อย่าง เพราะอะไรสิ่งนี้จึงสำเร็จ หรือสิ่งนั้นล้มเหลวเพราะเหตุใด พร้อมสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้ตัวเองในเรื่องที่ต้องทำต่อ หรือริเริ่มทำเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม

  6.  สำรวจความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แล้วไปตรวจสุขภาพในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่เราจะทำการรีเซตตัวเอง ทั้งการดูแลร่างกาย อารมณ์ และความคิด การตรวจสุขภาพจะทำให้เรารู้ว่าในปีหน้านี้เราควรดูแลตัวเองในด้านใดเพิ่มขึ้น ควรเสริมสร้างหรือปรับพฤติกรรมอะไรเพื่อการมีสุขภาพดี และเมื่อปีใหม่เวียนมาถึงอีกครั้ง ก็จะได้ทราบว่าเราดำเนินชีวิตได้เฮลธ์ตี้หรือยัง จะได้วางแผนชีวิตในปีต่อๆ ไปให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้อีก



ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โทร 0-2577-8111
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต
Line ID : @paolorangsit

เพิ่มเพื่อน