ทำความรู้จักกับ PRP
โรงพยาบาลเปาโลรังสิต
09-พ.ย.-2566

ทำความรู้จักเรื่อง PRP

ในสมัยก่อนการฉีดพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP มักถูกใช้ในการรักษาโรคทางทันตกรรม ก่อนที่ต่อมาจะนำมาใช้ในการศัลยกรรมตกแต่งกล้ามเนื้อ จนมาถึงในปัจจุบัน การฉีดพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP ได้ถูกนำมารักษาในเรื่องของอาการบาดเจ็บของกระดูก เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ ในผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของคนที่มีอาการปวดเข่า มีปัญหาเรื่องเส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังได้อย่างดีเลยทีเดียว


การฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) คืออะไร?

การฉีด PRP หรือ Platelet Rich Plasma คือการนำเลือดจากตัวผู้ป่วยปริมาณเพียงเล็กน้อยมาปั่นแยกจนได้เป็นพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น แล้วนำไปฉายแสง (Photoactivation) ก่อนที่จะฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บเพื่อช่วยลดความเจ็บปวด การบาดเจ็บหรืออักเสบของเอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นกระดูก และเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ นอกจากนี้ PRP ยังไปช่วยฟื้นฟูเซลล์ด้วยการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมความเสื่อมของเนื้อเยื่อและเอ็นให้ดีขึ้น หรืออย่างกรณีที่ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อฉีกขาด PRP หรือพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้นนี้จะเข้าไปช่วยผสานกล้ามเนื้อ โดยเข้าไปแทนที่ก้อนเลือดที่ปกคลุมกล้ามเนื้อส่วนที่ฉีกขาด


PRP นิยมใช้รักษาและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บอะไรได้บ้าง?

การฉีด PRP นอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่บาดเจ็บ จึงนิยมใช้ในผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ ไม่ว่าจะเป็น

  • โรคข้อเข่าเสื่อม

  • เอ็นไหล่ฉีกขาด

  • เอ็นไขว้หน้าข้อเข่าบาดเจ็บ

  • ปุ่มกระดูกข้อศอกด้านนอกบาดเจ็บ

  • ข้อเท้าเคล็ด ขัด ยอก

  • เอ็นกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้อพังผืดอักเสบ

  • เอ็นกล้ามเนื้อเคล็ด ขัด ยอก 


สิ่งที่ควรรู้! ก่อนฉีดพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP)

การฉีดพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP นั้นเรียกว่ามีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เพราะใช้เลือดของตัวผู้ป่วยเอง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องของการแพ้ อีกทั้งการฉีด PRP นั้นยังไม่พบว่ามีผลข้างเคียงจากการฉีดด้วย แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นกรด-ด่างของยาชาที่อาจมีผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือด จึงทำให้ผู้ป่วยอาจต้องทนเจ็บหรือระบมจากการฉีดและหลังการฉีด เพราะไม่สามารถใช้ยาชาช่วยบรรเทาความปวดได้ และอีกหนึ่งข้อสำคัญคือไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถฉีด PRP ได้ จำเป็นต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัยประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะหรือระดับความรุนแรงของโรค รวมถึงสุขภาพของผู้ป่วยร่วมด้วย


เตรียมตัวอย่างไร? ก่อน - หลัง การฉีดพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP 

ก่อนฉีด 2 สัปดาห์ ต้องงดยาตามแพทย์สั่ง และยากลุ่มแก้อักเสบหรือสเตียรอยด์ เพื่อให้การทำงานของเกล็ดเลือดมีประสิทธิภาพ

  • ก่อนวันเจาะเลือด ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้เลือดไม่หนืดข้น ซึ่งจะส่งผลต่อการดูดเลือดจากตัวผู้ป่วย

  • หลังฉีดต้องงดยาต้านการอักเสบและสเตียรอยด์ต่อไป หากปวดมากอาจใช้ยาแก้ปวดหรือใช้การประคบเย็นแทนไปก่อน


ในการฉีด 1 ครั้ง จะมีประสิทธิภาพอยู่ได้นานกี่เดือน? 

  • ประสิทธิภาพในการรักษาจะอยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 2 ปี และสามารถฉีดซ้ำได้

  • กลุ่มของกล้ามเนื้อมักใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่ากลุ่มของเส้นเอ็น

  • ตำแหน่งและขนาดของข้อมีผลต่อระยะเวลาและผลการรักษา

  • การเข้ารับการรักษาทันทีที่ได้รับบาดเจ็บมักให้ผลการรักษาที่ดีและหายเร็วกว่าอาการที่เป็นมาเรื้อรัง

  • ต้องฉีดประมาณ 2-3 ครั้งต่อเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บ โดยเว้นแต่ละครั้ง 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์

  • ใช้เวลาในการรักษาครั้งละประมาณ 2 ชม.

  • ต้องใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ เป็นต้นไป จึงจะเริ่มเห็นผลชัดเจน


อย่างไรก็ตาม การรักษาอาการของโรคข้อเสื่อมทั้งจากความเสื่อมตามวัย หรือการได้รับอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา ไม่ว่าจะเป็นบริเวณข้อเข่า ข้อหัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ ข้อเท้า หรือข้ออื่นๆ รวมถึงเอ็นและกล้ามเนื้อ ก่อนที่แพทย์จะรักษาด้วยการฉีด PRP แพทย์จะทำการตรวจบริเวณที่ได้รับการบาดเจ็บอย่างละเอียด เพื่อประเมินอาการ ผลที่คาดหวัง และเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับความคุ้มค่าและได้ประโยชน์สูงสุดต่อตัวผู้ป่วย พร้อมทั้งรับฟังความเห็นชอบจากผู้เข้ารับการรักษาเสมอ ดังนั้นการพบแพทย์และการได้รับการตรวจอย่างละเอียดจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เกิดการรักษาที่เหมาะสมกับอาการและโรคที่เป็นมากที่สุด



ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต
โทร 0-2577-8111 ต่อ 2 หรือ 1772

รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่

Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต


เพิ่มเพื่อน