หากคุณคือผู้หญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไปแล้วยังไม่เคยตรวจภายในเลย ควรจะต้องเริ่มหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวไว้ เพราะไม่วันใดก็วันหนึ่งย่อมถึงเวลาที่ปัญหาการปวดท้องจะชวนให้สงสัยว่าเกิดอะไรกับระบบสืบพันธุ์ของเรา โดยเฉพาะโรคทางนรีเวชอย่างเนื้องอกมดลูกเป็นโรคที่พบได้บ่อย การรู้เท่าทันอาการเตือนเพื่อสังเกตตนเอง รวมไปถึงแนวทางในการรักษา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้หญิงทุกคนอุ่นใจไร้กังวล เมื่อต้องเผชิญกับโรคร้ายนี้!!
เนื้องอกมดลูกที่แตกต่างกัน
เนื้องอกมดลูกแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ซึ่งเราแบ่งโดยจุดที่เกิด ดังนี้
- เนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูก (Intramural fibroid) เป็นตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุด
- เนื้องอกที่ผิวด้านนอกมดลูก (Subserosal fibroid) คือ เนื้องอกที่ตำแหน่งก้อนเนื้อโตขึ้น และดันออกมาที่ผิวด้านนอกมดลูก
- เนื้องอกที่โพรงมดลูก (Submucosal fibroid) คือ ลักษณะที่เนื้องอกโตขึ้นและดันเข้าไปในโพรงมดลูก โดยยังอยู่ใต้เยื่อบุมดลูก ซึ่งอาจทำให้โพรงมดลูกเบี้ยวไปจากเดิมได้
ประจำเดือน สัญญาณเตือนที่สังเกตได้
เมื่อมีเนื้องอกเกิดขึ้นในมดลูก สัญญาณเตือนที่สามารถสังเกตได้ด้วยตนเองก่อนก็คือการมี “ประจำเดือนผิดปกติ” เช่น ประจำเดือนมามากและนาน มีลิ่มเลือดปนเป็นก้อน มีอาการปวดประจำเดือนที่เพิ่มมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น หรือในบางกรณีอาจมีอาการปวดคล้ายปวดประจำเดือนทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงการมีประจำเดือน
อาการแบบนี้...ควรไปพบแพทย์
- ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด เพราะอาจเกิดจากก้อนเนื้องอกไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
- ท้องผูก อาจเกิดจากก้อนเนื้องอกไปกดเบียดลำไส้ตรง (ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายที่ต่อกับทวารหนัก) และทวารหนัก
- คลำพบก้อน แม้บางทีไม่มีอาการใดๆ แต่อาจคลำพบก้อนบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือช่องท้อง เนื่องจากก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่
- ภาวะมีบุตรยากและแท้งบุตรได้ง่าย เนื่องจากก้อนเนื้องอกโตยื่นเข้าไปในโพรงมดลูก ทำให้เกิดการอุดตันของท่อนำไข่หรือขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน
รักษาเนื้องอกมดลูกด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง
การผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery - MIS) จะกระทบกระเทือนต่ออวัยวะข้างเคียงน้อยมาก เพราะแพทย์จะทำการเจาะรูเล็กๆ ประมาณ 0.5 ซม. 3 จุด และ 1 ซม. ที่หน้าท้องบริเวณสะดืออีก 1 จุด หรือแล้วแต่อวัยะที่ต้องการผ่าตัด เพื่อใส่กล้องและเครื่องมือผ่านรูผนังหน้าท้อง โดยศัลยแพทย์จะเห็นอวัยวะที่ต้องการรักษาผ่านจอภาพขยายใหญ่ทำให้เห็นจุดที่ต้องผ่าตัดชัดเจนจึงมีความแม่นยำสูง นอกจากการผ่าตัดเนื้องอกมดลูกแล้ว โรคภายของสตรีอีกหลายโรคก็ยังรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องได้ เช่น ถุงน้ำช็อกโกแลตซีสต์ เนื้องอกที่รังไข่และมดลูก ซึ่งแต่ละโรคนั้นก็มีรายละเอียดต่างกันไป โดยการผ่าตัดเฉพาะก้อนเนื้องอกอาจกลับมาเป็นซ้ำได้ภายใน 5 ปี ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความกังวล รวมทั้งไม่ต้องการมีบุตรอีกในอนาคต อาจเลือกการรักษาโดยการตัดมดลูกออกแทนก็ได้
ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้อง
- ขนาดของแผลเล็กเพียง 1-2 ซม. ในขณะที่การผ่าตัดแบบเปิดจะมีแผลกว้างถึง 12-20 ซม. ลดขนาดของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นจากการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง
- แพทย์มองเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้ชัดเจนด้วยกำลังขยายของกล้อง ทำให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการกระทบต่ออวัยวะอื่นๆ
- ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในที่ทำการผ่าตัด ทำให้เจ็บน้อย ปวยน้อย ลดการเสียเลือด ฟื้นตัวไว
- ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน และโรคแทรกซ้อนต่างๆ ลดการเกิดพังผืดในช่องท้องจากการผ่าตัดแบบเปิด
- พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ในบางกรณีอาจจะกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด ซึ่งเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิดที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเป็นสัปดาห์
- ปลอดภัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิดช่องท้อง
ข้อจำกัดของการผ่าตัดส่องกล้อง
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ แต่ก็ไม่ต้องพักฟื้นนาน จึงลดค่าใช้จ่ายการนอนโรงพยาบาล
- ไม่สามารถใช้วิธีนี้กับผู้ป่วยในบางราย เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคปอดและหัวใจขั้นรุนแรง หรือผู้ที่เคยผ่าตัดและมีพังผืดในท้องมากๆ