-
ไซนัสอักเสบ...โรคยอดฮิตในวัยทำงานที่อันตรายกว่าที่คิด
หลายคนอาจเคยมีอาการคัดจมูกไม่หาย มีน้ำมูกข้น หรือไอแบบมีเสมหะ แต่คิดว่าเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา จนเมื่อไปพบแพทย์จึงรู้ว่าเป็นไซนัสอักเสบ ดังนั้น ใครก็ตามที่มีอาการดังกล่าวไม่ควรปล่อยไว้นาน ให้รีบไปพบแพทย์จะดีกว่า เพราะการไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เป็นโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงตามมาได้
ทำความรู้จักกับ “โรคไซนัสอักเสบ”
โรคไซนัสอักเสบ เป็นการอักเสบและติดเชื้อบริเวณเยื่อบุโพรงจมูกและโพรงอากาศข้างจมูก มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือได้รับสารก่อภูมิแพ้ โดยโรคไซนัสอักเสบจะมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ดังนี้
โรคไซนัสอักเสบมีอาการอย่างไร?
นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ ปวดหู ปวดฟัน และไอ เป็นต้น
การวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบ
การวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบ แพทย์จะอาศัยการพิจารณาจากประวัติและอาการแสดงทางคลินิกเป็นหลัก อาจจำเป็นต้องทำการถ่ายภาพรังสีหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ในบางรายที่แพทย์สงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อน หรือทำการส่งเพาะเชื้อเพื่อการให้ยาต้านจุลชีพหรือสงสัยเชื้อที่ดื้อยา
การรักษาโรคไซนัสอักเสบ
การรักษาโรคไซนัสอักเสบ มักรักษาตามสาเหตุว่าเกิดจากการเชื้อประเภทใด ดังนี้
โรคไซนัสอักเสบ...ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้!
โรคไซนัสอักเสบจะมีอาการหลักๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แต่ก็สามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนกับอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายได้ด้วย เช่น
หากพบว่ามีอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคไซนัสอักเสบ เช่น มีไข้สูงร่วมกับน้ำมูกข้น มีอาการปวดใบหน้าติดต่อกันเกิน 3-4 วันตั้งแต่เริ่มป่วย เป็นไข้หวัดที่อาการไม่ดีขึ้นนานเกินกว่า 10 วัน รวมถึงมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามที่กล่าวมา ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างตรงจุด เพราะไซนัสอักเสบเป็นภาวะติดเชื้ออย่างหนึ่ง ที่หากปล่อยไว้อาจเกิดการลุกลามรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
บทความโดย
นายแพทย์พิทยา กนกจรรยา
แพทย์ประจำสาขาโสต ศอ นาสิก
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ