-
โรคอัลไซเมอร์...อันตรายจากสมองเสื่อมที่ไม่ใช่แค่เรื่องหลงลืม
“สมอง” เป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญของร่างกายที่มีหน้าที่ควบคุมและสั่งการระบบต่างๆ ของร่างกาย หากเกิดความเสียหายขึ้นกับสมอง อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับการสั่งการของร่างกายและความรู้สึกนึกคิด โดยหนึ่งในโรคที่ส่งผลโดยตรงเกี่ยวกับสมองคงหนีไม่พ้น “โรคอัลไซเมอร์” ซึ่งเป็นโรคสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
ทำความเข้าใจกับ “โรคอัลไซเมอร์”
โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer Disease) เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมถอยของเซลล์ประสาทในสมอง ซึ่งแรกเริ่มจะค่อยๆ มีอาการสูญเสียความทรงจำ หรือหลงลืมเหตุการณ์ต่างๆ หลังจากนั้นผู้ป่วยอาจสูญเสียการตัดสินใจ หรือการวางแผน ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โรคนี้พบได้มากในผู้สูงอายุ โดยเมื่อเป็นแล้วอาการจะค่อยๆ เป็นมากขึ้นและไม่มีวันหาย
โรคอัลไซเมอร์ไม่ใช่ความเสื่อมตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุทุกคน แต่เป็นความเสื่อมที่เกิดจากโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เบต้า-อะไมลอยด์ (Beta-Amyloid) ซึ่งสารตัวนี้จะไปจับกับเซลล์สมอง ส่งผลให้เกิดความเสียหายและนำมาสู่การตายของเซลล์สมอง และทำให้สมองเสื่อมและฝ่อในที่สุด
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
อายุ : อายุเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากความเสื่อมของสมองตามอายุทำให้ความสามารถในการจดจำหรือสั่งการของสมองถดถอยลง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้น จะยิ่งพบมากขึ้นตามช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น
พันธุกรรม : การมีบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคอัลไซเมอร์ จะเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นได้ แต่พบในส่วนน้อยหรือประมาณร้อยละ 10-30 เท่านั้น
โรคดาวน์ซินโดรม : ผู้ที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมมักจะพบโรคอัลไซเมอร์ร่วมด้วย สาเหตุมาจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21
พฤติกรรมการดำเนินชีวิต : ผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับ ออกกำลังกายน้อยหรือขาดการออกกำลังกาย หรือมีภาวะโรคร่วม เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง หรือโรคหลอดเลือดสมอง
การได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะอย่างรุนแรง : ผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บทางศีรษะอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
สังเกตอาการเหล่านี้ให้ไว...อาจใช่โรคอัลไซเมอร์!
สัญญาณแรกเริ่มของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ คือมักจะหลงลืมความทรงจำระยะสั้น เช่น หลงลืมสิ่งที่จะทำในช่วงเวลาหนึ่ง วางของทิ้งไว้แล้วลืม หรือเริ่มนึกชื่อคนที่รู้จักไม่ออก เป็นต้น โดยเมื่ออาการเริ่มรุนแรงขึ้นจะสามารถแบ่งอาการของโรคอัลไซเมอร์ได้ 3 ระยะ ได้แก่
ระยะแรก : ผู้ป่วยจะเริ่มรับรู้ว่าตนเองขี้ลืม ความทรงจำเริ่มถดถอย ถามซ้ำหรือพูดซ้ำในเรื่องเดิมๆ สับสนทิศทาง หลงในสถานที่คุ้นเคย อารมณ์เสียง่ายและเริ่มซึมเศร้า ส่งผลให้เกิดความเครียด แต่ยังสามารถสื่อสารและยังพอทำกิจวัตรประจำวันได้
ระยะที่สอง : ผู้ป่วยจะมีอาการที่รุนแรงขึ้นจากเดิมและความจำจะถดถอยลง หรืออาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนเป็นคนละคนจากเดิม เช่น จากเดิมเป็นคนใจเย็นกลายเป็นคนมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดและก้าวร้าว หรืออาจกลายเป็นคนเงียบขรึม และเมื่อเวลาผ่านไปผู้ป่วยจะเริ่มมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ที่เคยใช้ได้ ในบางรายอาจมีความคิดและพฤติกรรมที่ผิดปกติมากขึ้น เช่น ขโมยของ ออกนอกบ้านเวลากลางคืน หรือเกิดภาพหลอน เป็นต้น
ระยะที่สาม : ผู้ป่วยจะมีอาการแย่ลง สูญเสียความทรงจำในอดีต รู้สึกสับสน ไม่รู้วันและเวลา ตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างน้อยลง ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวน้อยลง ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมลงจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง
การวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์
การตรวจวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ เริ่มต้นแพทย์จะทำการซักประวัติจากผู้ป่วย ญาติของผู้ป่วย หรือผู้ที่ดูแล เพื่อประเมินอาการของผู้ป่วย จากนั้นแพทย์จะทำการทดสอบสมองด้านต่างๆ เช่น ด้านความจำ การคำนวณ หรือการมีปฏิสัมพันธ์ ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือด การตรวจภาพสมองด้วยการ CT (Computerized Tomography) หรือการทำ MRI (Magnetic Resonance Imaging) ตามความเหมาะสมของผู้ป่วย เพื่อแยกแยะสาเหตุของการสูญเสียความทรงจำ และค้นหาสาเหตุว่ามาจากอะไร
โรคอัลไซเมอร์รักษาได้หรือไม่?
ในปัจจุบันการรักษาโรคอัลไซเมอร์ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เป็นการรักษาเพื่อช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หากเป็นโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ประสาทสมอง สามารถรักษาด้วยวิธีการให้ยา สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
ทั้งนี้ หากผู้ป่วยมีสาเหตุอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเสื่อมของเซลล์สมอง การรักษาจะมุ่งเน้นไปที่สาเหตุหรือโรคร่วมของการเกิดโรคเป็นหลัก
แม้จะรักษาให้หายขาดไม่ได้...แต่ดูแลให้ดีขึ้นได้
การดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ จำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรค เนื่องจากอาการหรือพฤติกรรมต่างๆ ของผู้ป่วยเกิดจากตัวโรค ผู้ป่วยอาจไม่ได้ตั้งใจที่จะแสดงพฤติกรรมผิดปกติออกมา ดังนั้นเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์สามารถนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปฏิบัติตาม เพื่อให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนี้
แม้โรคอัลไซเมอร์จะเป็นโรคที่ต้องใช้ความเข้าใจและไม่ใช่เรื่องง่ายในการดูแล แต่หากผู้ดูแลรู้ถึงสาเหตุและพฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็จะเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้ป่วยแสดงออกมา
ทั้งนี้หากสังเกตเห็นถึงสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ การได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่มจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ร่วมกับครอบครัวได้อย่างมีความสุข