ภาวะไส้ติ่งอักเสบ

ไส้ติ่งอักเสบ คือ อาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและอันตราย สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่โดยส่วนใหญ่จะพบในช่วงอายุ 12-60 ปี โดยอาการที่พบก็คล้ายคลึงกับการปวดท้องของโรคกระเพาะ อาหารเป็นพิษ หรือลำไส้อักเสบ ทำให้เราอาจนิ่งเฉย ไม่ระวังตัว รวมไปถึงการใช้ยารักษาผิดประเภท ทำให้กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นอาการของไส้ติ่งอักเสบ อาการก็มักจะหนักแล้ว ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เรามาดูกันว่าหาก 'ปวดท้องไส้ติ่งอักเสบ' จะมีอาการอย่างไรบ้างที่พอสังเกตได้  

อาการสำคัญของไส้ติ่งอักเสบมีลักษณะดังนี้

ระยะแรก – ระยะไส้ติ่งเริ่มอุดตัน: จะมีอาการปวดท้องกะทันหัน และเป็นอาการที่เกิดก่อนอาการอื่นๆ โดยมักมีอาการเบื่ออาหาร จุกแน่นร่วมด้วยตามมา มักปวดตำแหน่งรอบสะดือ ปวดแบบที่ไม่เคยปวดมาก่อน

ระยะต่อมา – ระยะไส้ติ่งบวมโป่งขึ้น: เมื่อเชื้อโรคแพร่กระจายและลุกลามถึงชั้นนอกของไส้ติ่ง ผู้ป่วยจะปวดท้องมากขึ้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่เกิน 1-2 วัน และย้ายตำแหน่งมาปวดที่ท้องน้อยด้านขวา เมื่อการเคลื่อนไหว-ไอ-จามจะทำให้ปวดมากขึ้น และอาจเกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูกในระยะนี้ได้

ระยะรุนแรง –ไส้ติ่งอักเสบแตกกระจายในช่องท้อง: เมื่อปล่อยไว้จนไส้ติ่งอักเสบแตก (พบได้บ่อยประมาณ 20%) หากไม่ได้รับการผ่าตัดรักษาจะเกิดผลข้างเคียงและมีภาวะแทรกซ้อนได้ 2 แบบ คือ

1. ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อห่อหุ้มไส้ติ่งที่แตกนั้นไว้ ทำให้คลำเจอมีก้อน เจ็บที่ท้องน้อย และมีไข้ หรือ 
2. เชื้อโรคและหนองกระจายไปทั่วท้อง (เยื่อบุช่องท้องอักเสบ) อาจเข้ากระแสเลือด (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ) ซึ่งอันตรายถึงชีวิต (ตาย) ได้

DID YOU KNOW

1. ไส้ติ่งอักเสบคือการบวมและอักเสบติดเชื้อของไส้ติ่ง ซึ่งอยู่ที่ตำแหน่งท้องน้อยด้านขวา
2. อาการไส้ติ่งอักเสบมักเริ่มด้วยอาการปวดท้อง
3. ตามด้วยอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก หรือท้องเสีย แล้วมีไข้ ท้องอืด
4. ส่วนใหญ่แล้ว แพทย์สามารถวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบได้ด้วยประวัติอาการปวดท้องและการตรวจร่างกาย
5. ในบางกรณีที่จำเป็น อาจต้องตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องเพิ่มเติม
6. การรักษาไส้ติ่งอักเสบคือการผ่าตัดไส้ติ่งโดยเร่งด่วน ไม่ใช่โรคที่รักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียวได้
   
   

คำถามยอดฮิต : ไส้ติ่งอักเสบ

Q : ถ้าคิดว่าอาจกำลังเป็นไส้ติ่งอักเสบ ควรทำอย่างไร?
A: ไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคเร่งด่วน ต้องไปพบแพทย์ทันทีที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล และไม่ควรกินยาระบายหรือสวนอุจจาระ เพราะอาจทำให้ไส้ติ่งอักเสบนั้นแตกเร็วขึ้น

Q : ไส้ติ่งอักเสบจำเป็นต้องผ่าตัดเท่านั้น จริงหรือไม่?
A: การรักษาไส้ติ่งอักเสบนั้น ทำได้อย่างเดียวคือการผ่าตัด โดยอาจจะเป็นการผ่าตัดแบบเปิดช่องท้อง หรือการผ่าตัดแบบส่องกล้องก็ได้ ขึ้นกับความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด ผลการรักษาไม่แตกต่างกัน โดยการผ่าตัดแบบส่องกล้องจะมีแผลเล็กๆ 0.5-1 ซม. 2-3 ตำแหน่ง จึงเจ็บแผลน้อยกว่า และกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โทร 0-2577-8111
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต