ไขมันพอกตับ (Fatty Liver Disease) ภัยเงียบ ที่คุกคามสุขภาพตับ
ตับ คือหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกาย ทำหน้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสารจำเป็น, ผลิตน้ำดีช่วยในการย่อย ไขมัน, เป็นแหล่งสะสมพลังงานและสารอาหาร, รวมถึงการกำจัด สารพิษ ออกจากร่างกาย แต่ถึงแม้จะมีความสำคัญเพียงใด ตับ ของเราก็สามารถเกิดความผิดปกติได้ โดยหนึ่งใน สาเหตุ สำคัญที่นำไปสู่ ปัญหาตับ ก็คือ ไขมัน เมื่อใดที่ร่างกายได้รับ ไขมัน มากเกินไป ไขมัน เหล่านั้นจะถูกสะสมที่ ตับ และนำไปสู่ ภาวะตับอักเสบ ในที่สุด
ทำความรู้จักกับภาวะไขมันพอกตับ
ไขมันพอกตับ (Fatty Liver Disease) ถือเป็นอีกหนึ่ง ภัยเงียบ ที่คุกคาม สุขภาพ ของผู้คนจำนวนมาก เพราะบ่อยครั้งที่ผู้ป่วยมักไม่แสดง อาการ อย่างชัดเจน หรืออาจมีเพียง อาการไม่สบาย บริเวณ ท้องขวาด้านบน เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากไม่ได้รับการ วินิจฉัย และ รักษาที่ถูกต้อง ภาวะนี้สามารถนำไปสู่ ภาวะตับแข็ง ได้ในที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้เกิด อาการรุนแรง ต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ปวดท้อง, ท้องมาน, ตัวบวม, ระบบประสาทผิดปกติ, หรือ การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
สาเหตุสำคัญของไขมันพอกตับ
นอกจากการได้รับ ไขมัน มากเกินไปแล้ว ยังมี สาเหตุ อื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิด ภาวะไขมันพอกตับ ได้แก่:
การดื่มแอลกอฮอล์ (Alcoholic fatty liver disease)
โรคอ้วน
โรคเบาหวาน
ไขมันในเลือดสูง
ไวรัสตับอักเสบ
ยาบางชนิด
การวินิจฉัยภาวะไขมันพอกตับอย่างแม่นยำ
ในกระบวนการ วินิจฉัย แพทย์ จะทำการซักประวัติ สุขภาพ, ตรวจร่างกาย ร่วมกับการ ตรวจเลือด เพื่อดูระดับ ไขมันในเลือด และ การทำงานของตับ นอกจากนี้ เพื่อความละเอียดและแม่นยำในการ วินิจฉัย ภาวะไขมันพอกตับ มากที่สุด สามารถตรวจประเมินได้โดย การอัลตร้าซาวด์ช่องท้องด้วยคลื่นเสียงความถี่ชนิดพิเศษ (Ultrasound Elastography) ซึ่งเป็นวิธีที่ ปลอดภัย, ไร้รังสีอันตราย, และใช้ระยะเวลาไม่นาน
การรู้เท่าทันและเข้ารับการตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณสามารถดูแล สุขภาพตับ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจาก ไขมันพอกตับ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ