ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids หรือ Piles)
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
29-พ.ย.-2561
ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids หรือ Piles) เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำที่มีอยู่ตามธรรมชาติของคนทั่วไปในบริเวณทหวารหนักเกิดการปูดพองเป็นหัว แล้วมีการปริแตกของผนังหลอดเลือดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระทำให้มีเลือดออกเป็นครั้งคราว อาจพบเป็นเพียวหัวเดียวหรือหลายหัวก็ได้ พบเป็นสาเหตุอันดับแรก ๆ ของอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด โดยทั่วไปจะไม่ค่อยมีอาการรุนแรง หรือ อันตรายแต่อาจเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง น่ารำคาญ หรือ ทำให้วิตกกังวลโดยมากมักจะมีภาวะท้องผูก หรือ ท้องเดินบ่อยครั้ง แม้โรคริดสีดวงทวารจะไม่ใช่โรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อชีวิตเราแต่ก็สร้างความรำคาญและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะพบได้5 % ของประชากรผู้ใหญ่ โดยพบได้มากในช่วงอายุ 45 – 65 ปี

สาเหตุของ โรคริดสีดวงทวารนั้นเกิดจากการที่หลอดเลือดดำที่อยู่ใต้เยื่อเมือกและผิวหนัง ในบริเวณทวารหนัก มีการปูดพองเป็นหัว เนื่องจากมีภาวะความดันในหลอดเลือดดำสูงจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การเบ่งถ่ายอุจจาระ การที่ปล่อยให้ท้องผูกเป็นเวลานาน รวมถึงการนั่งห้องน้ำนาน ๆ ผู้หญิงที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ น้ำหนักมาก การกินอาหารที่มีกากใยน้อย ไอเรื้อรัง เป็นต้น

อาการสำคัญของริดสีดวงทวาร คือ ถ่ายอุจจาระออกมาเป็นเลือดสด ๆ เนื่องจากการเบ่งถ่ายแรง ๆ หัวริดสีดวงทวาร จะปริแตกออก อาจสังเกตได้ว่ามีเลือดเปื้อนกระดาษชำระ หรือ เลือดไหลเป็นหยด โดยไม่รู้สึกเจ็บ

หากมีอาการแล้วเราปล่อยไว้เนิ่นนานหรือรักษาไม่ถูกวิธี อาจจะทำให้เลือดออกมาก หรือ เรื้อรัง ส่งผลให้มีภาวะซีด หรือ ในกรณี ที่ก้อนเนื้อริดสีดวง กลับเข้าไปในรูทวารไม่ได้และค้างอยู่ที่ปากทวารหนัก จะมีอาการเจ็บปวดมาก และหากพบแพทย์ช้าอาจจะทำให้เนื้อเน่าตาย จากการขาดเลือดก็ได้

สำหรับคำแนะนำของแพทย์ในการรักษาริดสีดวงทวารนี้ แนะนำให้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเพิ่มความดันในกลุ่มเนื้อเยื่่อหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร รวมถึงการใช้ยาต่าง ๆ เช่น ยาลดอาการบวม ยาแก้ปวดเป็นต้น หากการใช้ยารักษาไม่ได้ผล การรักษาขั้นต่อไปก็คือ การรักษาทางศัลยกรรมซึ่งทำได้โดยการผูกหลอดเลือด หรือ การผ่าตัดริดสีดวง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและดุลพินิจของแพทย์ ยังไงก็ตามความเห็นของหมอการผ่าตัดคือการรักษาริดสีดวงทวารที่ดีที่สุด


อย่างไรก็ตามหากเข้ารับการรรักษาริดสีดวงทวารแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นได้อีก หากยังมีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นท้องผูก ท้องเสียเรื้อรัง การนั่งแช่ในห้องน้ำนาน ๆ การตั้งครรภ์ โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน ดั้งนั้นหลังจากการรักษษแล้วหลังการรักษาแล้วต้องควบคุมปัจจัยเสี่ยงร่วมด้วยจึงจะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก

หมออยากฝากหลาย ๆ คน ที่มีอาการของริดสีดวงทวารแต่ยังไม่กล้ามาพบแพทย์ เนื่องจากกลัวหรืออาย หมออยากให้รีบมาพบแพทย์แต่เนิ่น ๆ นะครับเพราะหากปล่อยไว้เนิ่นนาน อาจจะทำให้เกิดภาวะซีดจากการเสียเลือดมาก ซึ่งจะเป็นอันตรายกับตัวคนไข้เองนะครับ

เทคนิคการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากริดสีดวงทวาร

- ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 – 10 แก้ว ทั้งนี้เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มและขับถ่ายออกมาได้ง่าย
- กินผักผลไม้ ชนิดที่มีกากใยสูง เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล มะละกอสุก เพื่อป้องกันท้องผูก
- ฝึกอุจจาระให้เป็นเวลา ไม่กลั้น ไม่เบ่งอุจจาระ
- ล้างบริเวณก้นด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำสะอาด และรักษาให้สะอาดอยู่เสมอ
- เมื่ออุจจาระ หรือ ปัสสาวะไม่ควรทำความสะอาดด้วยกระดาษชำระที่แข็ง
- ไม่ควรนั่งหรือยืนนาน ๆ รวมทั้งนั่งส้วมนาน ๆ ขณะอุจจาระ
- ลดความอ้วน
- เมื่อเลือดออกมากควรพบแพทย์เป็นการฉุกเฉิน
- เมื่อก้อนเนื้อริดสีดวงไม่สามารถดันกลับเข้าไปในทวารได้ อย่างพยายามออกแรงดัน เพราะจะทำให้ก้อนได้รับบาดเจ็บและบวมมากขึ้น ควรพบแพทย์เป็นการฉุกเฉิน


โดย นพ. กุลพันธ์ สันติวงษ์ ศัลยแพทย์ โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4