นิ่วในถุงน้ำดี กับรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง
โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4
19-พ.ค.-2566
“นิ่วในถุงน้ำดี” โรคที่เกิดจากปัจจัยเสี่ยงตามธรรมชาติหรือเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงในชีวิตประจำวัน เช่น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การกินยาบางชนิด และการเลือกกินอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ทำให้คุณอาจเสี่ยงเป็นนิ่วในถุงน้ำดีแบบไม่รู้ตัว เพราะในช่วงระยะแรกๆจะไม่แสดงอาการเตือนใดๆ กว่าจะรู้ตัวก็อาจลุกลามไปจนถึงขั้นรุนแรงแล้ว และอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาให้ทันเวลา


การผ่าตัดส่องกล้องนิ่วในถุงน้ำดี  คืออะไรนะ
การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้องแบบ 4K หรือ HD เป็นการผ่าตัดที่มีความคมชัดสูง โดยการเจาะรูประมาณ 3-4 รู ผ่านทางช่องท้องหรือผิวหนังใกล้บริเวณที่ต้องการผ่าตัด เพื่อสอดอุปกรณ์ผ่าตัดเข้าไป ซึ่งแพทย์สามารถมองเห็นภาพถุงน้ำดี ท่อน้ำดี และอวัยวะต่าง ๆ ชัดเจนยิ่งขึ้น ผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ และหากเปรียบเทียบกับการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเดิมก็จะมีความแตกต่างกัน ทั้งขนาดแผลที่ใหญ่ ระยะเวลาการพักฟื้นที่นานกว่า หรืออาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้


ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องนิ่วในถุงน้ำดี
  • ขนาดแผลเล็ก สามารถดูแลรักษาได้ง่าย
  • เมื่อแผลหายดีแล้ว จะมีรอยแผลเป็นที่มีขนาดเล็ก
  • ลดโอกาสการติดเชื้อ
  • ลดระยะเวลาในการพักฟื้นให้สั้นลง เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง
  • ลดความกังวลให้กับผู้ป่วยเมื่อต้องทำการผ่าตัด
  • ลดระยะเวลาในการผ่าตัดน้อยลง
  • อาการปวดหลังหลังผ่าตัดน้อยกว่า
  • อาการแทรกซ้อนจากการผ่าตัดน้อยกว่า เช่น การติดเชื้อที่แผล


เมื่อไรถึงจะจำเป็นต้องผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
เมื่อมีอาการปวดท้องเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น จนปวดร้าวทะลุไปยังบริเวณหลัง ตาหรือผิวเหลือง มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน และผู้ป่วยที่ตรวจเจอก้อนเนื้อในถุงน้ำดี หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ให้รีบมาพบแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
เมื่อตัดถุงน้ำดีออกไป จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือไม่


หลายคนอาจรู้สึกกังวล เมื่อไม่มีถุงน้ำดีแล้ว จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือไม่
แต่จริงแล้วสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย เนื่องจากตับจะผลิตน้ำดี แต่แค่ไม่สามารถเก็บน้ำดีไว้ได้ในถุงน้ำดีได้ ส่งผลให้ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ร่างกายปรับตัวเมื่อไม่มีถุงน้ำดีก่อน เช่น การเลือกกินอาหารที่มีเส้นใยสูง เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เพราะระบบย่อยอาหารอาจย่อยไขมันได้ไม่ดีพอเมื่อเทียบกับตอนมีถุงน้ำดีอยู่

อีกทั้ง หากผู้ป่วยกลับบ้านไปแล้ว แล้วมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง  ท้องแข็ง  แน่นอึดอัดท้องมาก  กดเจ็บ  มีไข้สูง และรอบๆแผลบวมแดงหรือมีเลือดออกที่แผล ให้รีบมาพบแพทย์ทันที


เพราะฉะนั้น หากคุณไม่อยากเสี่ยงเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ก็ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และหมั่นสังเกตุร่างกายตัวเองอยู่เสมอ หากมีอาการเตือนที่สงสัยว่าเสี่ยงเป็นนิ่วในถุงน้ำดีหรือไม่ ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ก่อนเบื้องต้น เพราะหากตรวจก่อน รักษาก่อน ในระยะเริ่มต้น ก็จะช่วยลดโอกาสไม่ให้โรครุนแรงมากขึ้นจนยากเกินที่จะแก้ไขได้



ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

ศูนย์ศัลยกรรม อาคาร 1 ชั้น 1
โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
โทร. 02-5144141 ต่อ 1101-1100