ดูอย่างไรถึงใช่...ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
‘น้ำตาล’ และ ‘คาร์โบไฮเดรต’ นับเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายขาดไม่ได้ และยังเป็นส่วนผสมสำคัญที่ประกอบอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มแทบทุกเมนู แต่หากบริโภคมากเกินความจำเป็นต่อวัน อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น จนนำไปสู่ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้
รู้จักกับ “ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง”
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) คือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ หรือหากวัดด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลจะได้ผลที่มีค่าสูงเกิน 100 มก./ดล. (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) หลังอดอาหาร 8 ชม. ซึ่งหากปล่อยไว้ ไม่ทำการรักษา อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้ในอนาคต
ความผิดปกติของอินซูลิน...สาเหตุของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
โดยปกติแล้ว หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน “อินซูลิน” จากตับอ่อน ทำหน้าที่นำน้ำตาลในหลอดเลือดไปเผาผลาญเป็นพลังงานให้กับเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ ซึ่งจะควบคุมให้ร่างกายรักษาระดับน้ำตาลให้เป็นปกติ
แต่ในผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ตับอ่อนจะไม่สามารถผลิตอินซูลินออกมาได้เพียงพอหรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้เต็มที่ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่ลดลง
อย่างไรก็ตาม ในคนปกติที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวานก็อาจเกิดภาวะดื้ออินซูลินได้เช่นกัน โดยอาจเกิดจากปัจจัยด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือเป็นโรคบางอย่างได้ เช่น
สัญญาณเตือน! ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
ซึ่งหากปล่อยไว้ ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ร่างกายจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรดจากการสะสมของสารคีโตน (เมื่อร่างกายไม่สามารถเผาผลาญน้ำตาลได้ ตับจึงเผาผลาญไขมันมาเป็นพลังงานแทน ทำให้ได้สารคีโตนออกมา เมื่อคีโตนในเลือดสูง จึงเกิดเป็นภาวะเลือดเป็นกรด) ส่งผลให้อาการของผู้ป่วยรุนแรงกว่าเดิม เช่น
ทั้งนี้สัญญาณเตือนเหล่านี้อาจไม่ได้แสดงให้เห็นในผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงทุกราย ดังนั้นการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำจึงช่วยบ่งบอกภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้
ระดับน้ำตาลเท่าไหร่ถึงไม่ปกติ?
วิธีการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่เหมาะสมที่สุดต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ ผลที่ได้ออกมาจะเป็นค่ามิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งสามารถอ่านค่าได้ ดังนี้
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงรักษาได้...แค่เปลี่ยนพฤติกรรม
ในการรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ ซึ่งในขั้นต้นสามารถรักษาได้โดย
ทั้งนี้การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเป็นประจำ ร่วมกับตรวจร่างกายเป็นประจำ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพเพื่อป้องกันโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต นอกจากนี้เรายังสามารถรับคำแนะนำที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันความรุนแรงของโรคร้ายในอนาคตได้เช่นกัน