ภาวะกระดูกพรุน เป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุต้องพึงระวัง เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายที่เคยซ่อมแซมและเสริมสร้างมวลกระดูกได้ดีนั้นจะทำได้ไม่ทันกับการสูญเสียไป ซึ่งความหนาแน่นของมวลกระดูกสูงสุดจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 30 ปี จากนั้นจะค่อยๆ ลดลง จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงมักมี ‘ภาวะกระดูกพรุน’ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ
หัวข้อที่น่าสนใจ
ภาวะ “กระดกพรุน” คืออะไร?
กระดูกพรุน ใครว่าไม่อันตราย
กระดูกพรุน รู้ได้ด้วยการ “ตรวจมวลกระดูก”
การตรวจมวลกระดูก หรือ การตรวจดูความหนาแน่นของกระดูก (Bone densitometry)
ขั้นตอนการตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก
ใครบ้างที่ควรตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก?
ป้องกันอย่างไรให้ห่างไกลกระดูกพรุน?
ภาวะ “กระดกพรุน” คืออะไร?
“กระดูกพรุน” เป็นภาวะที่เกิดจากการสลายตัวของมวลกระดูก ทำให้กระดูกมีโครงสร้างภายในที่เปลี่ยนไป ความแข็งแรงลดลด มีความเปราะบาง จึงทำให้แตกหักง่ายเพียงแค่มีแรงกระแทก เช่น การสะบัดมือทำให้ข้อมือหัก การบิดตัวผิดจังหวะหรือลื่นล้มก็ทำให้กระดูกสันหลังหรือกระดูกสะโพกหัก ซึ่งภาวะกระดูกพรุนนี้จะไม่ส่งสัญญาณใดๆ คือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อกระดูกหัก หรือกระดูกทรุดจนทำให้ตัวเตี้ยลงอย่างชัดเจน
กระดูกพรุน ใครว่าไม่อันตราย
เพราะผู้ป่วยกระดูกพรุน กระดูกจะหักง่ายกว่าคนทั่วไป จึงเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง จากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งหากเคยกระดูกหักจากภาวะกระดูกพรุนครั้งแรกแล้ว จะยิ่งมีโอกาสสูงที่จะเกิดกระดูกหักครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ตามมา ซึ่งอาจนำมาซึ่งความพิการและการเสียชีวิตได้
กระดูกพรุน รู้ได้ด้วยการ “ตรวจมวลกระดูก”
จากสถิติจะพบว่า 1 ใน 2 ของผู้หญิง และ 1 ใน 5 ของผู้ชาย ที่อายุมากกว่า 50 ปี จะเกิดภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน ซึ่งการเสื่อมสลายของเนื้อกระดูกจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยไม่มีอาการบ่งชี้ ไร้สัญญาณเตือน วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ได้ว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด คือ “การตรวจมวลกระดูก”
การตรวจมวลกระดูก หรือ การตรวจดูความหนาแน่นของกระดูก (Bone densitometry)
เป็นวิธีการตรวจที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะจะช่วยให้ทราบว่ากระดูกมีมวลและมีความแข็งแรงในระดับใด มีภาวะกระดูกพรุนหรือไม่ การตรวจมวลกระดูกจะใช้การ X-ray ที่เป็นรังสีพลังงานต่ำเพื่อสะท้อนภาพเนื้อเยื่อกระดูก ซึ่งจะทราบผลการตรวจอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใดจากรังสี
ขั้นตอนการตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก
ผู้เข้ารับการตรวจสามารถทานอาหารและดื่มน้ำก่อนเข้ารับการตรวจได้ตามปกติ เมื่อพร้อมแล้วจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้ และถอดเครื่องประดับทุกชิ้นทุกชนิดออกจากร่างกาย ในกรณีที่มีโลหะฝังอยู่ในร่างกาย เช่น ใส่เหล็กดามกระดูก ใส่ข้อสะโพกเทียม หรือใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการตรวจ การตรวจนั้นจะต้องนอนราบลงเป็นเตียงตรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะช่วยจัดตำแหน่งร่างกายให้เหมาะสม แล้วเริ่มเดินเครื่องฉาย X-ray ซึ่งจะใช้เวลาในการตรวจประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น
ใครบ้างที่ควรตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก?
สตรีหลังวัยหมดประจำเดือน
ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
ผู้ที่มีรูปร่างผอม ยิ่งผอมมากยิ่งเสี่ยงมาก
ผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์ (Steroid) ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ สูบบุหรี่จัด ชอบดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลม รวมทั้งผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
ป้องกันอย่างไรให้ห่างไกลกระดูกพรุน?
กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เสริมอาหารที่ให้แคลเซียมสูง เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม
กินอาหารที่มีวิตามินดี เพื่อช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมมีประสิทธิภาพ
ออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง อาจเลือกเป็นการวิ่งถ้าร่างกายยังไหว หรือเลือกเป็นการเดินเร็วสำหรับผู้สูงอายุ
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
ตรวจสุขภาพและตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกอย่างน้อยปีละครั้ง