เช็กด่วน!!! 4 อาการปวดหัวแบบนี้!? ต้องรีบไปหาหมอ

อาการปวดหัว นับเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งลักษณะอาการจะมีตั้งแต่ปวดหัวเล็กน้อยไปจนถึงปวดหัวมาก โดยเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปวดหัวจากความเครียด ปวดหัวไมเกรน หรือหากปวดหัวมากร่วมกับปวดหัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากความผิดปกติของร่างกายในส่วนต่างๆ เช่น มีเนื้องอกในสมอง เส้นเลือดสมองโป่งพอง โพรงจมูกอักเสบ หรือค่าสายตาผิดปกติ ซึ่งในแต่ละโรคก็จะมีความรุนแรงที่ต่างกัน แล้วอาการปวดหัวแบบไหนอีกบ้างที่เรียกว่าผิดปกติ? เรามาดูคำอธิบายกัน

 

ปวดหัวแบบไหน...ที่เรียกว่าผิดปกติ

1. ปวดหัวบริเวณที่ไม่ใช่ตำแหน่งเดิม หรือไม่เคยปวดบริเวณนั้นมาก่อน : โดยทั่วไปแล้วร่างกายของเราจะมีอาการปวดหัวในจุดเดิมๆ เสมอ เช่น ปวดหัวบริเวณขมับเนื่องจากอากาศร้อน หรือนอนไม่พอ ซึ่งหากมีบริเวณจุดปวดที่ผิดไปจากจุดที่เคยปวดเป็นประจำ โดยเฉพาะเปลี่ยนจุดปวดมาเป็นบริเวณกลางหน้าผาก ก็อาจสงสัยได้ว่าร่างกายกำลังป่วยด้วยโรคอื่นอยู่ ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
2. ปวดหัวนานขึ้นและถี่มากขึ้น : มีอาการปวดหัววันละหลายครั้ง และปวดหัวอยู่เรื่อยๆ เกิน 15 วัน หรือปวดหัวติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน ก็อาจเสี่ยงเป็นโรคปวดหัวเรื้อรังได้
3. ปวดหัวมากจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก : หากหลับไปแล้ว แต่มีอาการปวดหัวรุนแรงมากจนต้องสะดุ้งตื่นมากลางดึก ทำให้หลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืนจนรบกวนการนอน อาจเป็นสัญญาณอาการปวดหัวที่ไม่ธรรมดา
4. ปวดหัวแบบมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย : เช่น เห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน แขนขาขยับไม่ได้ เป็นลมหมดสติ หรือหน้าเบี้ยว เป็นอาการที่บ่งชี้ว่าอาการปวดหัวนั้นอาจมาจากความผิดปกติภายในสมองที่ทำให้อาการเหล่านี้แสดงออกมาร่วมด้วย ซึ่งผู้ป่วยจะต้องรีบเข้ารับคำปรึกษาแพทย์โดยทันที

 

หากท่านใดที่อ่านแล้ว รู้สึกว่าอาการที่กล่าวมาตรงกับตัวเองแม้เพียงหนึ่งข้อ ก็ไม่ควรชะล่าใจซื้อยามาทานเอง ทางที่ดีแนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยให้ตรงจุด จะได้รีบรักษาอย่างทันท่วงที ก่อนที่โรคจะลุกลามรุนแรงจนยากที่จะรักษาได้