5 สาเหตุความหย่อนคล้อย และความดูมีอายุของดวงตา เกิดจาก
1. ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาคล้ายกับผิวหนังส่วนอื่นๆที่เวลาสูญเสียคอลลาเจนก็จะเกิดร่องและความไม่สม่ำเสมอ แต่ผิวหนังรอบดวงตาต่างจากบริเวณอื่นๆ ตรงที่ไม่มีชั้นไขมันใต้ผิวหนังทำให้บาง และเหี่ยวย่นง่ายกว่าบริเวณอื่น ยิ่งในคนที่แสดงสีหน้าบ่อยๆ กล้ามเนื้อแสดงสีหน้าเวลาหดตัวก็ยิ่งทำให้เห็นริ้วรอยชัดมากขึ้น
2. ถุงใต้ตา และไขมันบริเวณหนังตาบน ไขมันประเภทนี้ไม่ได้เพิ่มจำนวนมากกว่าตอนเราอายุน้อยๆ เพียงแค่ตอนเด็กๆ ไขมันเหล่านี้อยู่ในเบ้าตา และมีแผ่นพังผืดเส้นเอ็นขึงกั้นไม่ให้ออกมานอกเบ้าตา แต่เมื่อายุมากขึ้น พังผืดเส้นเอ็นเหล่านั้นก็จะหย่อนคล้อยตามอายุ ทำให้ไขมันที่เคยอยู่ในเบ้าตาออกมาอวดโฉม เกิดเป็นถุงใต้ตาข้างนอกนั่นเอง
3. ร่องใต้ตา ร่องนี้เกิดจากความหย่อนของเส้นเอ็นเช่นเดียวกับข้อ 2 แต่การหย่อนของเส้นเอ็นนี้ ร่วมกับการสูญเสียไขมันบริเวณแก้ม ทำให้เกิดร่องใต้ตาที่มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีถุงใต้ตามากๆ ยิ่งทำให้ยิ่งเห็นร่องลึกมากขึ้น
4. หนังตาหย่อน คิ้วตก ส่วนที่หย่อนตกลงมาอันดับแรก คือส่วนหางตา และหางคิ้ว เพราะคนเรามีกล้ามเนื้อหน้าผากที่คอยช่วยยกคิ้วและเปลือกตาไว้ แต่กล้ามเนื้อหน้าผากนี้เชื่อมไปไม่ถึงบริเวณหางคิ้ว เมื่อถึงเวลาที่อะไรๆ ก็หย่อน ส่วนที่ตกลงมาก่อนเพราะไม่มีแรงดึงช่วย ก็คือบริเวณหางคิ้วนั่นเอง
5. รอยย่นที่หน้าผาก ผลพวงเมื่อคิ้วตก ทำให้หนังตาหย่อนลงไปบังการมองเห็น ร่างกายของเราก็จะทำการเลิกหน้าผากขึ้นเพื่อช่วยยกคิ้ว เป็นเหตุให้เกิดริ้วรอยย่นที่หน้าผาก ร่วมกับการสูญเสียคอลลาเจนก็จะทำให้ร่องนั้นยิ่งลึก และดูชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีก
ปกป้องดวงตาจากแดดร้าย
แสงแดด แสงยูวี นอกจากจะทำร้ายผิวหนังให้ไหม้ แก่ก่อนวัย เป็นมะเร็งผิวหนังแล้ว ยังสามารถทำร้ายดวงตา โดยเฉพาะทุกส่วนของดวงตาได้เลย โดยเฉพาะเปลือกตา ซึ่งเป็นผิวหนังส่วนหนึ่งของร่างกาย แสงแดด สามารถทำร้ายได้เหมือนกับผิวหนังส่วนอื่นยิ่งโดนแสงแดดมากๆ โดยไม่มีการป้องกันก็สามารถทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังที่เปลือกตาได้เช่นกัน นอกจากนี้ แสงแดดยังทำให้ผิวแก่ เหี่ยวก่อนวัย
เยื่อบุตา การโดนแสงแดดมากๆ ทำให้เยื่อบุตาเสื่อม เกิดเป็นต้อลม และต้อเนื้อ ทำให้แสบ เจ็บ เคืองตาได้ หากโดนแสงแดดมากๆ ต้อเนื้อก็จะลุกลามเข้ามาบังตาดำได้ด้วยกระจกตา แสงยูวี ทำร้ายให้กระจกตาอักเสบ กระจกตาถลอก เจ็บ แสบ เคืองตา น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่โดนแสงยูวีในปริมาณมาก คนที่ไปเล่นหิมะ หรือ หาดทรายเป็นเวลานานโดยไม่ใส่แว่นกันแดด เนื่องจากหิมะ, ทราย, และสภาพพื้นผิวอื่นที่เรียบมัน มีคุณสมบัติสะท้อนแสงทำให้เราได้รับยูวีเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า รวมถึงแสงที่เกิดจากการเชื่อมเหล็ก, เป่าแก้ว ก็จะมียูวีในปริมาณเข้มข้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีอาชีพด้านเชื่อม, เป่าแก้ว ต้องสวมใส่แว่นป้องกันขณะทำงานเลนส์ตา แสงแดด และแสงยูวี ทำให้เลนส์ตาธรรมชาติของเราแก่ขึ้น สีเข้มขึ้น ขุ่นขึ้น เกิดเป็นต้อกระจกเร็วกว่าคนที่ไม่ค่อยได้สัมผัสแสงแดดจอประสาทตา แสงแดดกระตุ้นให้เกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อม ส่งผลให้การมองเห็นลดลงได้ ยิ่งไปกว่านั้นการจ้องแสงอาทิตย์โดยตรงเป็นการทำลายจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาบริเวณนั้นเสีย ไม่สามารถรับภาพได้ป้องกันแสงแดด..ทำร้ายตา
ใส่แว่นกันแดดทุกครั้งที่อยู่กลางแจ้ง แว่นกันแดดไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง เพียงกันยูวีได้ก็พอ นอกจากการใส่แว่นจะกันแดดได้แล้วยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาเราได้ด้วยงดการจ้องดวงอาทิตย์ หรือแหล่งกำเนิดแสงต่างๆ โดยตรงอาชีพที่ต้องสัมผัสกับแสงโดยตรง จำเป็นต้องสวมแว่นตาเพื่อป้องกันขณะทำงาน
พญ. วรภา ลีลาพฤทธิ์
ศัลยแพทย์ตกแต่งจักษุ และเสริมสร้าง
โรงพยาบาล เปาโล พหลโยธิน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน
โทร. 0-2271-7000 ต่อ ตา (Absolute Beauty Eye)