ทุกวันนี้ “ก้อนผิดปกติที่เต้านม” เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยขึ้นในผู้หญิงไทยปัจจุบัน สามารถพบได้แทบทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัย 20 - 45 ปี จากสถิติพบว่า 15 - 24% ของหญิงทั่วโลก จะมีก้อนเนื้อที่ผิดปกติขึ้นในเต้านม แต่ทุกก้อนที่เต้านมไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดออกมาตรวจ
การตรวจก้อนเต้านม
ปัจจุบันมีวิธีนำชิ้นเนื้อจากก้อนเต้านมที่ผิดปกติ เพื่อตรวจพิสูจน์ว่าเป็นก้อนเนื้อมะเร็ง หรือก้อนเนื้องอกธรรมดา โดยไม่ต้องผ่าตัดเอาก้อนที่เต้านมออก ด้วยวิธีการ เจาะชิ้นเนื้อเต้านม (Core Needle Biopsy) รวมถึงเพิ่มความแม่นยำเพื่อตรวจพิสูจน์ว่ากำลังเจาะชิ้นเนื้อตรง และถูกก้อนที่สงสัยด้วยวิธี เจาะชิ้นเนื้อเต้านมแบบระบุตำแหน่งด้วยการอัลตราซาวด์ (Ultrasound Guided Core Needle Biopsy) เฉพาะอย่างยิ่งในรายที่มีก้อนเต้านมขนาดเล็ก คลำไม่ได้ หรือมีหลายก้อนในเต้านมข้างเดียวกัน เมื่อพบว่าผลชิ้นเนื้อที่ก้อนเต้านม เป็นก้อนที่ผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงจะเป็นปัญหาต่อร่างกายคนไข้ในอนาคต จำเป็นต้องผ่าตัดเอาก้อนเต้านมที่ผิดปกติออก
เทคนิคการผ่าตัดก้อนเต้านม (Excisional Breast Biopsy)
โดยทั่วไปศัลยแพทย์จะลงแผลเหนือก้อน และตัดก้อนออกมาตรวจ โดยไม่ได้ปิดช่องว่างหลังเอาก้อนออก สิ่งที่ตามมา คือรอยแผลเป็นที่เต้านม, เต้านมยุบ, บุ๋ม บริเวณช่องว่างที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด เต้านมผิดรูป และในบางครั้งชิ้นไม่ใช่ชิ้นเนื้อบริเวณก้อนที่ต้องการผ่าตัดเอาออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งก้อนเต้านมที่มีขนาดเล็ก คลำไม่ได้ รวมถึง
ในรายเนื้อที่มีเนื้อเต้านมขนาดใหญ่
การ ผ่าตัดแบบระบุตำแหน่งก้อนเต้านม และไร้แผลเป็นที่เต้านม “Scarless Localized Wide Local Excision at Breast Mass” จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหา ลดช่องว่าง และผลกระทบที่เกิดจากการผ่าตัดเต้านมด้วยวิธีทั่วไป สามารถทำได้กับก้อนเต้านมทุกลักษณะ ทุกขนาด ทุกตำแหน่ง รวมถึงรายที่ได้รับการเสริมเต้านมมา โดยไม่เกิดแผลที่เต้านมหลังการผ่าตัด ตัวก้อนที่ต้องการผ่าตัดออกจะถูกระบุตำแหน่งอย่างแน่นอน ชัดเจน
ไม่เกิดรอยบุ๋ม หรือทำให้เต้านมผิดรูป ที่สำคัญช่วยให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวไว
ขั้นตอนผ่าตัดแบบระบุตำแหน่ง และแบบไร้แผล
1. ทำหัตถการเพื่อระบุตำแหน่งก้อน ที่เรียกว่า Needle Localization Under Ultrasound Guidanc
2. เข้าสู่กระบวนการผ่าตัดก้อนเนื้อ และเนื้อเยื่อข้างเคียงโดยรอบออกตามตำแหน่งที่ถูกระบุ ด้วยการผ่าตัดแบบซ่อนแผลบริเวณ ลานหัวนม โดยตัวช่องว่างทุกชั้นของเต้านมที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดจะถูกปิด หากช่องว่างมีขนาดใหญ่มาก (ตามขนาดของชิ้นเนื้อที่นำออกมา) ไม่สามารถเย็บปิดได้ แพทย์จะใช้วิธีเลาะเนื้อเต้านมข้างเคียง (Local Flap) เพื่อปิดช่องว่างที่เกิดขึ้น
3. แผลผ่าตัดจะถูกเย็บปิดด้วยไหมละลาย ไม่ต้องมารับการตัดไหมหลังผ่าตัด
4. พบศัลยแพทย์เพื่อตรวจเช็คแผลหลังรับการผ่าตัด เหมือนการผ่าตัดทั่วไป
นพ. ไกรภพ จารุไพบูลย์
ศัลยแพทย์มะเร็งเต้านม และเสริมสร้างเต้านม
โรงพยาบาล เปาโล พหลโยธิน