ไวรัสโควิด-19 เป็นโคโรนาไวรัสสายพันธุ์หนึ่ง ที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยมุ่งทำลายปอดและมีอันตรายถึงชีวิต เหตุที่โรคนี้แพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วก็เพราะเซลล์ในเยื่อบุจมูกถูกไวรัสเกาะจับได้ง่าย และเมื่อจำนวนไวรัสในช่องจมูกและช่องปากแบ่งตัวมากขึ้น ก็ทำให้เกิดการแพร่กระจายผ่านละอองฝอยของน้ำลายและน้ำมูกจากคนสู่คนได้ง่ายนั่นเอง ดังนั้น...
“การตรวจให้รู้ว่า เราได้รับเชื้อ COVID-19 หรือไม่
จึงมีความสำคัญทั้งในเชิงการรักษา
และการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค”
การตรวจ RT-PCR หาการติดเชื้อ COVID-19 คืออะไร?
การตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR คือ การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ (RT-PCR) ในระบบทางเดินหายใจ แบบ Real-time โดยใช้ก้านพลาสติกปลายนุ่มป้ายเยื่อบุในคอหรือเนื้อเยื่อหลังโพรงจมูก หรือมักเรียกกันสั้นๆ ว่า “การทำ Swab” ซึ่งเป็นวิธีที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ เพราะผลที่ได้มีความแม่นยำสูง สามารถตรวจจับเชื้อไวรัสแม้จะมีปริมาณน้อยได้ จึงตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการติดเชื้อ รวมถึงยังเป็นวิธีตรวจติดตามผลการรักษาด้วยว่ายังมีเชื้อหลงเหลืออยู่หรือไม่
ขั้นตอนในการตรวจ RT-PCR หรือ Swab
ใครบ้างที่ควรตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยการทำ RT-PCR หรือ Swab
สำหรับผู้ที่เริ่มมีอาการคล้ายๆ หรือสงสัยว่าตนเองจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อร่างกายได้รับเชื้อจะแสดงอาการภายใน 2-5 วัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ดังนั้นเราจึงควรสำรวจตัวเองก่อนว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ดังนี้
ทังนี้…หากสำรวจแล้วพบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่มีอาการ ให้กักตัว พักผ่อน และกินยาตามอาการ หากผ่านไป 48 ชั่วโมงแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้พิจารณาตรวจหาเชื้อ ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการ แต่มีประวัติเสี่ยง ควรกักตัวอยู่บ้านอย่างน้อย 5 วัน โดยแยกตนเองออกจากคนในบ้าน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดรับประทานอาหารและใช้ของร่วมกัน ใช้ห้องน้ำเป็นคนสุดท้ายแล้วล้างห้องน้ำให้สะอาด และหากเริ่มมีอาการป่วยระหว่างกักตัว ให้รีบไปตรวจหาเชื้อ โดยขณะเดินทางให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ไม่แสดงอาการใดๆ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยที่ยังสามารถแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้ ดังนั้นหากต้องการความสบายใจก็สามารถไปตรวจได้ แม้ไม่จำเป็นนัก ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการและไม่มีประวัติเสี่ยงเลยนั้น ไม่จำเป็นต้องไปตรวจแต่อย่างใด