แผลในกระเพาะอาหาร กับอาการปวดท้องจากการติดเชื้อ H. Pylori
อาการปวดท้องเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยและมักกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันแต่การปวดท้องในแต่ละครั้งอาจไม่ใช่แค่เรื่องทั่วไปที่เราคิดกันเสมอไปจึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจหาสาเหตุให้ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามจนยากที่จะรักษา
ตำแหน่งที่ปวดท้องบอกโรคได้จริงหรือ?
เมื่อมีอาการปวดท้องหลายคนอาจพยายามระบุตำแหน่งเพื่อหาสาเหตุแต่การบอกตำแหน่งปวดท้องด้วยตัวเองอาจไม่แม่นยำพอนั่นเพราะความรู้สึกปวดที่ตำแหน่งอวัยวะนั้นๆกับอาการปวดจริงที่เกิดกับอีกอวัยวะหนึ่งอาจไม่ตรงกันได้เนื่องจากเส้นประสาทบริเวณผนังหน้าท้องมีอยู่มากมายทำให้การระบุตำแหน่งที่ปวดท้องอาจคลาดเคลื่อนไปจากตำแหน่งจริงดังนั้นการวินิจฉัยโดยแพทย์ร่วมกับการซักประวัติและการใช้เทคนิคตรวจเพิ่มเติมด้วยเครื่องมือแพทย์จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการสรุปสาเหตุที่แน่ชัดว่าเป็นโรคอะไรเกิดกับอวัยวะใดเพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องแม่นยำและรวดเร็วขึ้น
เชื้อ H. Pylori ต้นตอแผลในกระเพาะอาหารและอาการปวดท้องเรื้อรัง
เชื้อแบคทีเรียH. Pylori (Helicobacter Pylori)เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเราเชื้อนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนไม่ว่าจะในขั้นตอนการเตรียมอาหารและวัตถุดิบรวมถึงการทานอาหารที่ทิ้งค้างไว้นาน
เมื่อเชื้อH. Pylori เข้าสู่กระเพาะอาหารและเข้าสู่เซลล์เยื่อบุผิวของกระเพาะอาหารตามลำดับ จะส่งผลให้มีอาการปวดท้องเรื้อรังคลื่นไส้อาเจียนแม้จะรักษาด้วยการกินยาผู้ป่วยก็มักยังคงมีอาการปวดท้องอยู่นอกจากนี้การติดเชื้อชนิดนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และโรคกระเพาะอักเสบในที่สุด
การตรวจวินิจฉัยอาการปวดท้องจากแผลในกระเพาะอาหาร
การตรวจหาเชื้อแบคทีเรียH. Pyloriสามารถทำได้ด้วยวิธีคัดกรองผ่านการตรวจอุจจาระหรือการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนต้น (Endoscopy) ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองที่แพทย์จะพิจารณาสำหรับผู้ที่มีข้อบ่งชี้ทางสุขภาพ เช่นมีปัญหากรดไหลย้อนบ่อยๆ, ทานอาหารไม่ได้, อาหารไม่ย่อย, อาเจียนเป็นเลือด, หรือมีอาการปวดท้องมากจนไม่สามารถควบคุมได้
การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้นมีประโยชน์อย่างมากในการค้นหาความผิดปกติของอวัยวะส่วนหลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร, และลำไส้เล็กส่วนต้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวินิจฉัยกรณีมีก้อนหรือแผลในกระเพาะอาหาร
หากมีอาการปวดท้องหรือความผิดปกติใดๆเกิดขึ้นควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับการปรึกษาตรวจดูอาการค้นหาสาเหตุที่แน่ชัดและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เนื่องจากอาการปวดท้องอาจเกิดจากรอยโรคที่สามารถพัฒนาความรุนแรงไปเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารในอนาคตได้
ปรับพฤติกรรมการกินเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ห่างไกลโรคกระเพาะอาหาร
การเจ็บป่วยส่วนใหญ่มักมีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ขาดความสมดุล ดังนั้นการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะจะช่วยลดความเสี่ยงและเลี่ยงการกระตุ้นให้เกิดปัญหาสุขภาพได้อย่างยั่งยืน:
“ไม่ต้องรอให้มีอาการ การส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร สามารถคัดกรองความเสี่ยงของโรคได้”