การเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกต้องและเหมาะสม นอกจากจะช่วยป้องกันเบาหวานแล้ว ยังช่วยให้ผู้ที่เป็นเบาหวานคุมเบาหวานได้ดีอีกด้วย
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าปล่อยให้อ้วน
การรับประทานให้ครบทุกหมู่ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน และเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย สิ่งสำคัญคือ ต้องดูแลเรื่องน้ำหนักตัว อย่าปล่อยให้อ้วน สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 หากปล่อยให้ตนเองอ้วนจะเป็นการบั่นทอนชีวิตให้สั้นลง เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดตีบ ตาบอดจากเบาหวานขึ้นตา โรคไต และระบบปลายประสาทเสื่อม การลดน้ำหนักที่ดีควรจะลดช้าๆ และสม่ำเสมอจะปลอดภัยกว่าการลดน้ำหนักเร็วๆ
รับประทานข้าวสลับแป้งบางมื้อ
แม้ว่าอาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เมล็ดธัญพืช ผักที่มีแป้งมาก และถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสได้ก็ตาม แต่อาหารกลุ่มนี้ก็เป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ เพื่อให้มีแรงในทำงานและทำกิจวัตรประจำวัน ผู้เป็นเบาหวานแล้วก็ไม่ควรงดอาหารจำพวกแป้ง แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ควรเลือกบริโภคเมล็ดธัญพืชไม่ขัดสีที่ประกอบไปด้วยใยอาหาร วิตามินอี และแมกนีเซียมสูง ซึ่งมีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาล และอินซูลินในเลือด นอกจากนี้ ใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ในธัญพืชไม่ขัดสีบางชนิดซึ่งมีมากในข้าวโอ๊ต และบาร์เลย์ จะช่วยชะลอการย่อย และการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลไม่แกว่งมากอีกด้วย
รับประทานผักและผลไม้
ผักและผลไม้ เป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ เส้นใยอาหารที่ช่วยป้องกันเบาหวาน สารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง การจะได้ประโยชน์ในการป้องกันโรคจะต้องกินผัก และผลไม้ทุกวัน อย่างน้อยวันละประมาณ 400 กรัม ตามที่องค์การอนามัยโรคแนะนำ ควรหลีกเลี่ยงผลไม้เชื่อม แช่อิ่ม กวน ตากแห้ง ดอง ผลไม้กระป๋อง เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลสูง และอาจมีเกลืออยู่ด้วย
รับประทานปลา ถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
การกินปลาและการเสริมน้ำมันปลา อาจช่วยลดปัญหาโรคแทรกซ้อนจากเบาหวานได้ น้ำมันปลา หรือกรดโอเมก้า3 ในปลายังช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ช่วยควบคุมการตีบ ตันของหลอดเลือดหัวใจ และป้องกันความผิดปกติจากการเต้นของหัวใจ ควรรับประทานปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เลือกรับประทานเนื้อสัตว์ไม่ติดหนัง และมัน และหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ไขมันสูง ควรกินเนื้อสัตว์วันละ 6 – 12 ช้อนโต๊ะ นอกจากนี้ โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง ยังเป็นแหล่งของใยอาหารด้วย ในถั่วเปลือกแข็งจะมีไขมัน และพลังงานสูง วิธีกินถั่วให้ได้ประโยชน์และได้ไขมันไม่มากเกินไป คือให้กินถั่วแทนเนื้อสัตว์บ้าง หรือกินถั่ว 1 อุ้งมือ
ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
นมเป็นแหล่งของโปรตีนและแร่ธาตุสำคัญ คือแคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง นม และผลิตภัณฑ์นมไขมันเต็มจะมีไขมันอิ่มตัว และคอเลสเตอรอลสูง ควรเลือกดื่มนม และผลิตภัณฑ์นมพร่องไขมัน หรือขาดไขมัน วันละ 1 – 2 แก้ว ผู้เป็นเบาหวานควรหลีกเลี่ยงนมเปรี้ยว นมปรุงแต่งรส หรือนมที่เติมน้ำตาลทุกชนิด
หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด และเค็มจัด
น้ำตาลทรายจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในรูปของซูโครส เมื่อรับประทานเข้าไปจะถูกย่อยเป็นกลูโคสและฟรุกโตส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้เป็นเบาหวานจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขนมหวานเป็นประจำ เพราะอาจเป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือดได้ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด เพราะอาจส่งผลทำให้ความดันโลหิตสูงได้ เช่น อาหารประเภทหมัก ดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง กะปิ ปลาเค็ม ปลาแห้ง และอาหารแปรรูปต่างๆ
งด หรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะส่งผลอันตรายต่อตับ เพิ่มความดันโลหิต ทำลายสมอง และนำไปสู่มะเร็งชนิดต่างๆ ผู้เป็นเบาหวานหากต้องการดื่มควรปรึกษาแพทย์ก่อน และไม่ควรดื่มเป็นกิจวัตร
อ้างอิงข้อมูลจาก: สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย
เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
ชมรมเบาหวานในเด็ก และวัยรุ่น
ศูนย์เบาหวานและเฉพาะโรค อาคาร 1 ชั้น 2
โทร. 02-271 7000 ต่อ เบาหวานและเฉพาะโรค