อาการปวดหลังของคุณแม่หลังคลอด มักมีผลมาตั้งแต่ตั้งครรภ์ เมื่อการตั้งครรภ์เริ่มเข้าสู่ช่วงประมาณ 4 - 5 เดือน ขนาดครรภ์เริ่มขยายใหญ่มากขึ้น รวมทั้งน้ำหนักครรภ์ก็เพิ่มมากขึ้นด้วย สรีระของว่าที่คุณแม่ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ข้อต่อของกระดูกและข้อในส่วนต่างๆ ของร่างกายหลวม และหย่อนตัวลง กระดูกเชิงกรานที่ยึดติดกันก็จะคลายออก ทำให้เชิงกรานของว่าที่คุณแม่หลวม ยิ่งขนาดครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ ว่าที่คุณแม่ต้องแบกรับน้ำหนักที่มากขึ้นเท่านั้น หากสังเกตว่าที่คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะยืน หรือเดินในลักษณะที่ต้องแอ่นหลัง เพื่อเป็นการปรับสมดุลร่างกายให้สามารถรับกับน้ำหนักของขนาดครรภ์ได้นั่นเอง และเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องแอ่นหลังนานๆ ก็ส่งผลให้มีอาการปวดหลังได้
เมื่อคลอด แล้วทำไม่ยังปวดหลังอยู่อีก?
ต้องยอมรับว่าเมื่อคลอดแล้ว แต่ลูกน้อยยังคงทิ้งน้ำหนักไว้ที่ตัวคุณแม่อยู่มาก จึงเป็นหน้าที่ของแม่เองที่ต้องพยายามลดน้ำหนัก รวมถึงส่วนเกินหน้าท้อง เพื่อไม่ต้องแบกน้ำหนักตัวที่มากขึ้น ช่วงเวลานี้เองคุณแม่อาจยังมีอาการปวดหลังอยู่บ้าง แต่ไม่รุนแรงเท่าช่วงที่ตั้งครรภ์
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คุณแม่ปวดหลัง คือ “การอุ้มลูกน้อย” หากเป็นลูกน้อยแรกคลอด น้ำหนักตัวลูกเบาๆ การอุ้มปกติทั่วไป หรือแม้แต่การอุ้มเพื่อให้นมลูก ก็ไม่ได้เป็นต้นเหตุของอาการปวดหลังมากนัก แต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกน้อยของคุณมีน้ำตัวที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 - 20 กิโลกรัม แต่ยัง ร้องงอแงขอให้คุณแม่อุ้มอยู่บ่อยครั้ง ก็อาจส่งผลต่ออาการปวดหลังได้ ไม่ต่างอะไรกับการพฤติกรรมยกของหนักที่ส่งผลต่ออาการปวดหลังนั่นเอง
หลังคลอดแล้วตัวคุณแม่เองควรให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูโครงสร้างร่างกาย ในช่วง 2 - 3 เดือนแรกในกรณีคลอดแบบธรรมชาติ แต่สำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอด อาจจะต้องใช้เวลาในการจะฟื้นตัวค่อนข้างนานกว่า ทั้งนี้ คุณแม่ควรออกกำลังตามคำแนะนำของแพทย์ หรือนักกายภาพบำบัด เพื่อสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจส่งผลต่ออาการปวดหลังเรื้อรัง เช่น เวลานั่ง ควรนั่งให้หลังตรง พยายามนั่งให้สะโพก ไหล่ ชิดพนักพิง และหาหมอนใบเล็กมารองบั้นเอว และต้นคอ เวลานอนควรนอนตะแคง และใส่หมอนไว้ระหว่างขา หากดูแลตนเองตามที่แนะนำแล้วอาการปวดหลังไม่ทุเลาลง มีอาการปวดติดต่อกันนานเกิน 2 เดือน ควรปรึกษาแพทย์ หรือนักภายภาพบำบัด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 1772 ต่อ กระดูกและข้อ